Effortless Cool Copenhagen

Processed with VSCO with c1 preset

หลังจากถูกชักชวนให้มาเขียนบล็อกด้วยกัน รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก เลือกอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี

สุดท้ายตกลงปลงใจกับ ‘โคเปนเฮเก้น’  เมืองที่หลงรักมากที่สุดในบรรดาทุกเมืองที่ไปเยือนมา พอได้ยินอย่างนี้แล้วก็มักจะพบกับคำถามต่อมาว่า ทำไมถึงชอบโคเปนเฮเก้น ซึ่งพยายามทุกครั้งที่จะอธิบายออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ไม่สำเร็จสักที ที่ทำได้คงเป็นการพยายามสื่อความรู้สึกปลื้มใจต่อไปยังเพื่อนพี่น้อง อยากชักชวนทุกคนมารู้จักเมืองนี้กัน

โคเปนเฮเก้น เมืองหลวงของเดนมาร์ก หนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย แม้ว่าจะเป็นเมืองหลวงแต่ถือว่ามีขนาดค่อนข้างเล็กมาก โดยทั่วไป ทริปชาวไทยไปสแกนดิเนเวียนั้นจะเน้นหนักที่นอร์เวย์ ประเทศซึ่งมีทัศนียภาพงดงาม ฟยอร์ด แสงเหนือ พระอาทิตย์เที่ยงคืน โดยมักจะแวะผ่านโคเปนเฮเก้นกัน 1-2 วัน แต่ทริปนี้เราเน้นหนักอยู่ที่โคเปนเฮเก้นกันยาวๆ ค่ะ

เรามาถึงสนามบิน Copenhagen Kastrup กันแต่เช้า สนามบินค่อนข้างเงียบผิดกับช่วงกลางวัน วิธีการเข้าเมืองที่ง่ายและย่อมเยาที่สุดคงเป็น Metro M2 นั่งยาวถึงในเมือง เช็คอินโรงแรมแล้วเป็นอันเสร็จสรรพ พร้อมลุย

Copenhagen on Two Wheels

เรื่องการเดินทางภายในเมืองนี้ แนะนำที่สุดคือ การปั่นจักรยาน คือจิตวิญญาณของการเที่ยวเมืองนี้เลยค่ะ ที่นี่มีเลนจักรยานเกือบ 100% ผู้คนใช้จักรยานในชีวิตประจำวันแบบจริงจัง ใครรักการปั่นจักรยานอยู่แล้วจะมีความสุขมาก ช่วงแรกอาจงงกับระบบชิดขวาสักเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ชิน สามารถหาเช่าจักรยานได้ตามสถานีรถไฟใหญ่หรือที่โรงแรมส่วนใหญ่ก็มีให้เช่าค่ะ

image

Cykelslangen ทางลัดสำหรับจักรยานเท่านั้น

 

Processed with VSCO with c1 preset

Nyhavn, Strøget, Den Lille Havfrue and Hans Christian Andersen

เริ่มต้นทริปแต่ละเมือง ก็คงหนีไม่พ้นการเยี่ยมชมแลนด์มาร์กของแต่ละแห่ง

Nyhavn ท่าเรือที่มีบ้านหลากสีมักเป็นที่แรกที่เรานึกถึง ฤดูร้อนผู้คนออกมาเดินเล่น นั่งพักผ่อน คึกคักมากตั้งแต่เช้า เราแวะซื้อไอศกรีมและชูโรสทานระหว่างนั่งดูผู้คนไปพลาง แล้วไปเดินเล่นถนนคนเดิน Strøget กันต่อ ร้านรวงแถบนี้มีเยอะมาก ครบครันสำหรับขาช้อป ผลิตภัณฑ์เด่นประจำตำบล คือ Lego สาขานี้ร้านเล็กแต่ของเยอะ และหลายรุ่นก็หาไม่ได้ที่บ้านเรา, Royal Copenhagen เครื่องจานชาม Porcelain สีขาวลายน้ำเงินคลาสสิกในแบบเดียวกับที่ราชวงศ์เดนมาร์กใช้, Bang & Olufsen ลำโพงสวยเสียงดีสัญชาติเดนมาร์ก และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกชมเลือกช้อปกันตามอัธยาศัย

Processed with VSCO with c1 preset

บ้านหลากสีที่ Nyhavn

Processed with VSCO with c1 preset

Strøget ถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนตลอดวัน

image
มื้อเช้าที่ Cafe Europa 1989

ร้านอาหารที่แนะนำระหว่างเดินช้อปปิ้งที่ Strøget เริ่มต้นกับอาหารเช้าที่ Cafe Europa 1989 มีมุมนั่งรับแดด มองผู้คนได้เพลินๆ มื้อกลางวันที่ A Hereford Beefstouw ร้านสเต็กอร่อย ต่อของหวานที่ Conditori La Glace ร้านขนมแห่งแรกของโคเปนเฮเก้น เปิดมาตั้งแต่ปี 1870 ที่ต้องสั่งเลยคือ Sportskage ขนมที่อยู่หน้าโบชัวร์หลักของร้าน เป็นนูกัตบดกับครีมฟูนุ่มท็อปด้วยชูเพสทรี จิบกับชาร้อนแล้วฟินสุดๆ หรือหากเป็น Chocolate Lover ก็ต้องไม่พลาด Hotel Chocolat ค่ะ

ไปต่อกันที่ Den Lille Havfrue หรือ The Little Mermaid อีกจุดท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ นางเงือกน้อยมีที่มาจากตัวละครดังในนิทานของ Hans Christian Andersen นักเขียนชื่อดังชาวเดนมาร์ก เนื้อเรื่องในนิทานฉบับดั้งเดิมนั้นจบแบบไม่สวยนัก ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จบแบบเศร้าเสียมาก ส่วนตัวเลยชอบเวอร์ชั่นที่ดิสนีย์เอาไปแปลงแล้วแฮปปี้เอนดิ้งมากกว่า

Eat Like There’s No Tomorrow

เรื่องอาหารการกินเป็นอีกส่วนที่ทำให้เรารักโคเปนเฮเก้น อาหารอร่อยหลากหลายชนิดทั้งคาวหวาน ทั้งอาหารพื้นบ้านและเมนูต่างๆ จากทั่วโลก ที่ทำการบ้านมานี่กลับมาอีกกี่สิบครั้งถึงจะทานครบ !! อาหารท้องถิ่นลำดับแรกที่ต้องห้ามพลาดเลย คือ Smørrebrød ขนมปังหน้าต่างๆ ที่ต้องสั่งคือหน้าปลา Herring ทานแล้วรู้สึกว่ามาถึงถิ่นสแกนฯ แล้วจริงๆ ร้านโปรดของเราคือ Aamanns ซึ่งมีทั้งโซนร้านที่นั่งทานจริงจังแบบ Fine Dining และโซน Deli & Take Away ร้านอื่นที่แนะนำ คือ Restaurant Schønnemann ร้านโปรดของเชฟดัง René Redzepi แห่ง Noma และ Hallernes ร้านเล็กราคาย่อมเยาในตลาด Torvehallerne

image
Smørrebrød ของร้าน Aamanns Deli & Take Away
image
Torvehallerne ตลาดทั้งของสดและอาหารมากมาย ไปจนถึงขนม กาแฟ ไวน์และเบียร์ด้วย

สำหรับ New Nordic Cuisine โด่งดังที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Noma ซึ่งได้รับรางวัลอันดับ 1 Word’s Best Restaurant ถึง 5 ครั้ง แต่การจะกินของดีนั้นย่อมมีอุปสรรค เพราะเป็นร้านที่จองยากมาก หากจองเองในเว็บต้องกดจองทันทีตั้งแต่เวลาที่เริ่มเปิดจอง 3 เดือนล่วงหน้า แน่นอนว่าทริปนี้จึงอดไปตามระเบียบ แต่จะต้องมาซ้ำให้ได้แน่นอนค่ะ ทริปนี้เรามาลิ้มลองอาหารแบบนิวนอร์ดิกนี้ ที่ UFormel มีเมนูให้เลือกประมาณ 15 เมนู เปลี่ยนเรื่อยๆ ตามฤดูกาล แต่ขอแนะนำ 4 Courses with Wine Pairing คุ้มค่าที่สุด พืชผักท้องถิ่นนำมาปรุงพิเศษ หน้าตาดี และอร่อยแบบรู้สึกว้าวทุกจาน !! บางจานนี่มาเสิร์ฟปุ๊บ สงสัยว่าผักแบบนี้เอามาทำของหวานได้ด้วยเหรอ? แต่ผสมผสานกันออกมาแล้วดีเหลือเชื่อ ส่วนไวน์ที่เลือกมาอาจยังไม่โดดเด่นมาก แต่เข้ากันกับอาหารได้ดีจริงๆ นับเป็นมื้อแห่งความประทับใจค่ะ

image
Open Kitchen ที่ Uformel
image
Tatar of beef with pickled musrooms and black pepper (Uformel)
image
ซีฟู้ดสดๆ กับสลัดสแกนดิเนเวียนสไตล์ ที่ Oyster & Grill

นอกจากอาหารในแบบฉบับของที่นี่แล้ว ยังมีอาหารอร่อยจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งสเต็ก เบอเกอร์แบบอเมริกัน, อาหารทะเลสดๆ ไปจนถึงร้านอาหารไทยชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ Kiin Kiin ให้ลิ้มลองกัน ถูกใจสายกินแน่นอนค่ะ

Drink Till You Drop

มาต่อกันที่สายดื่ม เมืองนี้นับว่าเป็นสวรรค์ของคนรักกาแฟและคนรักเบียร์ค่ะ เราชอบทั้งสองอย่างเลยติดใจหนักไปอีก การคั่วเมล็ดกาแฟของที่นี่จะมีลักษณะเฉพาะตัว (Nordic Roasting Style) ร้านดังของที่นี่ต้อง Coffee Collective กาแฟดี บาริสต้าเด่น ได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้ว มี 3 สาขาให้ไปลิ้มลองกัน อีกร้านที่เราชอบมาก คือ Copenhagen Coffee Lab

image
Coffee Collective สาขา Torvehallerne ลูกค้าเยอะตลอดทั้งวัน
image
Copenhagen Coffee Lab

image

ส่วนเบียร์ดังของที่นี่อย่าง Carlsberg และ Tuborg นั้น เรียกได้ว่าถูกกว่าน้ำเปล่า !! ดื่มแทนน้ำได้ มึนแต่หัววันกันเลยทีเดียว แต่ดีเด่นที่สุดคงต้องยกให้ Craft Beer ที่กระแสกำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ห้ามพลาด MikkellerTo Øl และ Warpigs สามเจ้านี้การันตีความดีงามเลยค่ะ มีเบียร์ให้เลือกหลายสิบชนิด สำหรับรีวิวร้านกาแฟและร้านเบียร์แห่งโคเปนเฮเก้นแบบละเอียดจัดเต็ม รอติดตามบล็อกถัดไป เร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ

image
Mikkeller คราฟท์เบียร์ดังแห่งโคเปนเฮเก้น มีสาขามาเปิดที่กรุงเทพฯ แล้ว
image
To Øl ดีงามไม่แพ้กัน
image
สิ่งที่ห้ามพลาดที่ BRUS (Bar ของ To Øl) นอกจากเบียร์แล้วก็คือ Snack Board อันนี้ !!
image
Beer Flight ของ Warpigs เซ็ตเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากลองหลายๆ ตัว ทีเด็ดคือ Double IPA

Tivoli

Tivoli สวนสนุกแห่งความฝันของทุกคน แม้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบเล่นเครื่องเล่น หากมาเดินที่นี่ก็จะมีความสุขกันแน่นอน สวนสนุกเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี พื้นที่ไม่ใหญ่โตแต่มีครบครัน สวนสวย ขบวนพาเหรด ร้านอาหารหลากหลาย เครื่องเล่นทั้งแบบผาดโผนและแบบน่ารัก มีอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตจัดกันบ่อยๆ ช่วงที่เรามาเป็นช่วง Jazz Festival ก็มีวงดนตรีมาเล่นขับกล่อมเพลิดเพลินใจทุกวัน ราคาค่าเข้า 110 DKK ค่าเครื่องเล่นแบบ Unlimited 220 DKK หากใครที่คิดว่าจะเล่นเครื่องเล่นผาดโผนมากกว่า 3 อัน แนะนำให้ซื้อแบบนี้ค่ะ คุ้มสุดๆ เครื่องเล่นเด่นก็คือ Rutschebanen รถไฟเหาะรางไม้แบบคลาสสิก แต่สำหรับขาโหด หวาดเสียวสุดๆ ต้องเป็นรถไฟเหาะ The Demon และ เครื่องบิน Vertigo

image

image

image

image

Copenhagen Jazz Festival

เทศกาลแจ๊ซที่นี่นับเป็นอีกงานที่มีชื่อเสียงระดับโลก จัดทุกเดือนกรกฎาคมของทุกปี รวมเวลาทั้งหมด 10 วัน ช่วงที่จัดจะเป็นช่วงฤดูร้อน อากาศดีมากและผู้คนคึกคัก ในหนึ่งวันจะมีโปรแกรมยาวเหยียด เป็นแจ๊ซหลากหลายแนว เลยไปจนถึง Soul, Funk, Groove Venue ก็มีหลากหลายทั้งแบบจริงจังในฮอลล์ใหญ่ ดนตรีในสวน ขบวนพาเหรด วงเล็กๆ ตามร้านกาแฟ บาร์แจ๊ซ ตลาด หรือถนนคนเดิน เรียกได้ว่ามีทุกมุมเมือง ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สำหรับปี 2016 นี้ นักดนตรีมีชื่อที่มาร่วมงานนี้ โดดเด่นที่สุดก็คือมือกีตาร์ชาวอเมริกัน Pat Metheny บัตรขายหมดเร็วมาก ส่วนนักดนตรีคนอื่นๆ แม้เราจะไม่รู้จักแต่ก็ดูรายละเอียดจาก Application Jazz.dk ได้ว่าขณะนี้รอบตัวเรามีวงไหนเล่นอยู่บ้าง ห่างไปกี่กิโลเมตร เล่นแนวไหนอย่างไร ชมฟรีหรือมีค่าบัตร รวมทั้งเข้าไปดูคลิปของแต่ละวงก่อนได้ คอแจ๊ซควรต้องหาโอกาสมาสักครั้งค่ะ

image
ดนตรีมีเล่นทั่วทุกมุมเมือง
image
Jam Session ที่ Jazzhus Montmartre
image
ดนตรีในสวนที่ Tivoli เพลงเพราะ บรรยากาศสบาย

หากไม่ได้มาช่วงที่มีเทศกาล ขอแนะนำให้แวะเที่ยว La Fontaine แจ๊ซบาร์เก่าแก่ที่สุดของโคเปนเฮเก้น มีวงดนตรีเล่นทุกคืนวันศุกร์และเสาร์, Jazzhus Montmartre แจ๊ซคลับเก่าแก่ที่มีนักดนตรีระดับตำนานเคยมาเล่นแล้วมากมาย และ Mojo Blues Bar ร้านนี้ดนตรีจะหลากหลายแนวกว่า มีเล่นทุกวันค่ะ

When Design Matters

อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศแถบนี้ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่มีลักษณะเฉพาะตัว เรียบง่ายแต่ดูดี คือคำจำกัดความของสแกนดิเนเวียนสไตล์ ตึกสวยที่แนะนำให้ไปเยี่ยมชม คือ Den Blå Planet อะควาเรี่ยมสวย ภายนอกดูคล้ายน้ำวน เปิดใหม่เมื่อปี 2013Cirkelbroen สะพานข้ามคลองรูปวงกลมที่เปิดใหม่ในปี 2015 นอกจากดีไซน์สวยแล้ว ยังเป็นจุดแวะพักผ่อนริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามมองไปเห็นอีกตึกสวย The Black Diamond ด้วย

image
Cirkelbroen

หรือหากนั่งรถไฟออกไปชานเมืองสักเล็กน้อย มี Gallery ใหญ่ Lousiana Museum of Modern Art สวยงามทั้งดีไซน์ และ Exhibition ของที่นี่ก็จัดได้ดีมาก สำหรับเฟอนิเจอร์และของใช้จิปาถะนั้นมีให้เลือกซื้อเยอะมากค่ะ พุ่งตรงไปยังช็อปของแต่ละยี่ห้อได้เลย แต่หากยังไม่มียี่ห้อในดวงใจ แนะนำเดินชมที่ Illums Bolighus ที่ถนนคนเดิน Strøget เป็นร้านรวมเฟอนิเจอร์มากมายหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อกัน ใครโปรดปรานดีไซน์แบบนี้ก็เตรียมตัวเจ็บหนักกันได้เลยค่ะ

Tips  & Tricks

  • การเดินทางวิธีอื่นนอกจากจักรยานนั้น คือ Metro และ Bus ระบบของที่นี่คือ ขึ้น 1 ครั้งภายใน 2 โซน จะใกล้หรือไกล คิดราคาเท่ากันหมดคือ24DKK ดังนั้นถ้าใช้บริการวันละ 3-4 ครั้งขึ้นไป แนะนำซื้อ Day Pass (มีแบบ 1, 3 และ 7 วันจะคุ้มกว่าค่ะ
  • เครื่องขายตั๋วหลายแห่งมีแต่เครื่องที่รับเฉพาะบัตรเท่านั้น ไม่มีที่ให้ใส่เงินสดเลย แนะนำพกติดตัวไว้อุ่นใจ ดีที่สุดคือบัตรเดบิตที่มี Chip และ PIN Code เนื่องจากบัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนและบางแห่งมีชาร์จค่ารูดบัตรเพิ่มเติมด้วย
  • ส่วนหนึ่งที่สินค้าในละแวกนี้ค่อนข้างแพง เนื่องจากมีค่า VAT ถึง 25% !! ดังนั้นการซื้อสินค้าจากที่นี่หากหักลบกับ Tax Refund ที่จะได้คืนแล้ว อาจแพงกว่ายุโรปอื่นๆ ไม่มากนักค่ะ อย่าลืมทำ Tax Refund ก่อนออกจากเดนมาร์ก เคาเตอร์ Global Blue อยู่ที่ Terminal 2 อย่าลืมเผื่อเวลาเนื่องจากบางช่วงคิวยาวพอสมควร

Useful Websites/Books

  • VisitCopenhagen เว็บท่องเที่ยวทางการของโคเปนเฮเก้น ละเอียด แนะนำได้ดี และร้านอาหารที่เลือกมาแนะนำค่อนข้างเชื่อถือได้มาก
  • Mad About Copenhagen รูปสวยจากคาเฟ่น่ารัก อาหารอร่อยทั่วทุกมุมเมืองให้เราไปตามรอย
  • AOK.DK เว็บรีวิวคาเฟ่และร้านอาหารในเดนมาร์ก มีการจัดอันดับร้านยอดฮิตของแต่ละปี
  • Lonely Planet ยังคงเป็นหนังสือที่มีข้อมูลจำเป็นละเอียดครบถ้วน
  • Citix60 Copenhagen 60 สถานที่แนะนำจากศิลปิน 60 คน คำแนะนำเชิงลึกแบบฉบับคนท้องถิ่น
  • Copenhagen Style Guide พิกัดร้านรวงน่ารัก ทั้งในหมวด Eat, Sleep, และ Shop