Kamikochi : จุดชมวิว Japan Alps ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต

IMG_3F2452ECCF37-1

หากพูดถึง Japan Alps นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการไปเที่ยวชม Snow wall
ที่ Tateyama Kurobe Alpine route ซึ่งถือเป็นเส้นทางยอดนิยม โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแบบนี้
แต่วันนี้เราจะมาแนะนำอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ถือเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยม
และเป็นจุดที่สามารถชม Japan Alps ที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวไทย
อาจจะยังไม่ค่อยได้ไปสัมผัสบรรยากาศของที่นี่กันเท่าไรนัก นั่นก็คือ “Kamikochi”

จะสวยงามและน่าไปเที่ยวขนาดไหน ตามมาได้เลยครับ…

6005_JP01_2017_897

Kamikochi อยู่ในจังหวัด Nagano จัดเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น (แต่ที่พักก็ราคาโหดมากเช่นกัน)และมีชื่อเสียงในเรื่องของวิว Japan Alps ที่สวยงาม หันหน้าไปทางไหน ใช้กล้องอะไรถ่ายก็สวย

ช่วงเวลาที่ดีในการมาเที่ยว Kamikochi อยู่ในช่วงเดียวกับเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine route คือ ช่วงกลางเดือนเมษายน ถึงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

สำหรับการเดินทางไป Kamikochi ของเราในครั้งนี้ จัดเป็น One day trip จาก Tokyo ซึ่งจริงๆ แล้วระยะทางไกลและเสียเวลาในการเดินทางไปพอสมควร แต่เนื่องจากเวลาที่จำกัดและอยากจะได้ไปในวันที่อากาศดีจริงๆ (เพื่อให้ได้รูปสวยๆ นี่แหละ) เลยตัดสินใจพักที่ Tokyo และดูพยากรณ์อากาศทุกวัน วันไหนที่อากาศดีค่อยมา ดังนั้นถ้าใครอยากมาและถือ JR Pass อยู่แล้ว จัด One day trip จาก Tokyo ได้สบายๆ ครับ เดี๋ยวจะแนะนำรายละเอียดเรื่องการเดินทางให้ แต่ถ้าจะให้แนะนำควรพักที่ Matsumoto เพราะเดินทางไม่ไกลนัก อีกทั้งสามารถจัดอีกวันเพื่อไปเที่ยว Tateyama Kurobe Alpine route ได้ด้วย จะได้เก็บวิวจากทั้งสองที่ให้คุ้มไปเลย

6005_JP01_2017_696

เราเริ่มการเดินทางโดยออกจาก Tokyo ก่อน 6 โมงเช้า เพื่อนั่ง Shinkansen จาก Tokyo ไป Nagano ต่อรถไฟธรรมดาจาก Nagano ไปที่ Matsumoto พอถึงสถานี Matsumoto แล้ว ไม่ต้องออกจากสถานี ให้เดินไปตามป้ายที่บอกทางไปชานชาลาที่จะไป Kamikochi (ALPICO Line for Shinshimashima) ซึ่งจะเป็นรถไฟ Local ของอีกบริษัท (ไม่ใช่ JR ใช้ JR Pass ไม่ได้นะ) โดยจะนั่งไปสุดสาย คือสถานี Shinshimashima ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (ค่าโดยสาร 700 เยน/เที่ยว)

6005_JP01_2017_697

บรรยากาศภายในรถไฟหวานเย็นขบวนนี้

6005_JP01_2017_699

ข้างทางก็มีวิวสวยๆ ให้ดูตลอด อย่าเพิ่งหลับไปก่อนล่ะ

6005_JP01_2017_707

6005_JP01_2017_708

ถึงสถานี Shinshimashima จะเจอทางออก ให้ไปซื้อตั๋วเหมาที่เคาน์เตอร์ด้านซ้ายมือก่อนออก  โดยตั๋วเหมานี้ จะรวมค่ารถไฟ ALPICO Line และรถบัสไป Kamikochi ไป – กลับ ราคา 4,550 เยน (ถูกกว่าซื้อแยกหลายเยนอยู่)

ก่อนเดินออกสถานีก็ต้องแสดงตั๋วเหมานี้ และ JR Pass (หรือตั๋วรถไฟ JR ที่เราซื้อมาจากต้นทาง) ให้คุณลุงนายสถานีตรวจด้วย ออกไปปุ๊บ ก็จะเจอรถบัสที่ไป Kamikochi จอดรออยู่ พร้อมแจ้งเวลาออกรถไว้ด้วย

6005_JP01_2017_713

สำหรับเวลาในการเดินรถไฟ แนะนำให้เข้าไปดูใน www.hyperdia.com โดยเลือสถานีปลายทาง คือ Shinshimashima

ส่วนเวลาเดินรถบัสที่จะต้องใช้เพื่อจัดเวลาการเดินทาง สามารถเข้าไปเช็คได้ที่
http://www.alpico.co.jp/en/transportation/overview.php?id=4

ส่วนใครไม่ได้ซื้อ JR pass จะนั่งรถบัสตรงจาก Tokyo มาที่ Kamikochi เลยก็ได้
แต่ไม่แนะนำหากจะมา One day trip เพราะเสียเวลาเดินทางเยอะกว่า

6005_JP01_2017_718

หน้าตา Pass และโบรชัวร์แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว Kamikochi + ตารางเวลารถบัส

6005_JP01_2017_717

คุณลุงคนขับรถมาอธิบายเส้นทางที่จะเดินทางให้ฟัง ภาษาอังกฤษดีมาก

6005_JP01_2017_712

แค่วิวด้านหน้าสถานีก็ดีงามแล้ว

6005_JP01_2017_723

6005_JP01_2017_719

6005_JP01_2017_722

บรรยากาศระหว่างทาง (อย่าหลับเลย วิวสวย)

การเดินทางด้วยรถบัสจากสถานี Shinshimshima ไปสุดสายที่ Kamikochi ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. หากใครมีคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติที่สูงวัยไปด้วยและไม่อยากเดิน แนะนำให้ไปลงรถบัสที่ป้ายสุดท้าย ซึ่งจะไปจอดที่ Kamikochi Bus Terminal แล้วเดินต่ออีกไม่ไกลเพื่อไปจุดชมวิว Kamikochi ที่บริเวณสะพาน Kappa (Kappabashi) ใช้เวลาสักพักในการถ่ายรูป เดินชมวิว ซื้อของกินของฝาก แล้วค่อยเดินกลับไปที่ Bus Terminal เพื่อนั่งรถกลับไปที่สถานี Shinshimashima

แต่วัยรุ่น (เหรอ?) อย่างเราๆ หรือคนที่ยังแข็งแรงอยู่ อยากจะมาแนะนำเส้นทางเดินป่าระยะสั้นๆ (ประมาณ 3 กม.)
ตาม Route ที่เราได้เดินทางในครั้งนี้นี่แหละ เพราะไหนๆ ก็ได้มา Kamikochi แล้ว ยังมีอีกหลายมุมที่สวยงามให้ได้เก็บภาพสวยๆ และการเดินป่าในสภาพอากาศที่ไม่ร้อน มีแสงแดดอ่อนๆ แบบนี้ มันดีมากกกกก อยากให้ได้ไปลองสักครั้ง โดยเวลาที่ใช้เดินป่า ให้เผื่อเวลาไว้สัก 2-3 ชม. เพราะต้องเผื่อเวลา ที่จะถ่ายรูปด้วย อย่างเราเอง เดินไปได้ 5 ก้าว หยุดถ่ายรูปอีกแล้ว เพราะในทุกๆ จุดที่เดินผ่านไป มันสวยงามแบบที่ว่าพยายามหามุมถ่ายรูปมาให้ดูดียังไง ก็ยังสู้ไปเห็นด้วยตาตัวเองไม่ได้จริงๆ

Screen Shot 2560-06-10 at 21.36.54

Credit : Japan-guide.com

Route การเดินป่าของเรา จะเริ่มจากป้ายรถบัส Taisho Ike (เวลาอยู่บนรถพยายามฟังด้วยนะ เขาจะประกาศบอก) จุดนี้มีจุดชมวิวที่เด่นดัง ก็คือ Taisho Ike หรือ บึง Taisho จากนั้นเดินตามเส้นทางเดินป่า เลียบแม่น้ำชมวิวภูเขา Yake-dake ต่อด้วยบึง Tashiro และไปจบที่สะพาน Kappa เป็นอันสิ้นสุดการเดินป่าในเส้นทางนี้

Route : Taisho Ike bus stop –> Taisho Ike –> Tashiro Pond –> Tashiro bridge –> Kappa bridge

 

Taisho Ike

6005_JP01_2017_731

6005_JP01_2017_765

6005_JP01_2017_777kami 02

ชมวิวภูเขา Yake-dake
 6005_JP01_2017_806

6005_JP01_2017_822

บรรยากาศระหว่างทาง

Kami 03

6005_JP01_2017_789

6005_JP01_2017_778

6005_JP01_2017_792

6005_JP01_2017_837

เดินต่อมาจนถึงบริเวณนี้ จะเป็นทางแยกซ้ายและขวา
ให้เดินไปทางด้านขวา เพื่อไป Tashiro Pond ก่อน

6005_JP01_2017_838

ทางเดินไม้แบบนี้ เดินตรงไปเรื่อยๆ

6005_JP01_2017_853

ถึงจุดหมายของเราแล้ว Tashiro Pond

6005_JP01_2017_855

บรรยากาศเงียบสงบ น้ำใสมาก และสีแตกต่างกับ Tasho Ike สวยไปอีกแบบ

6005_JP01_2017_877

วิวแม่น้ำ Azusa และ Japan Alps จาก Tashiro bridge

6005_JP01_2017_895

ระหว่างทางจาก Tashiro bridge ไป Kappabashi จะมีโรงแรม และร้านอาหารอยู่ประปราย ถ้าใครอยากประหยัดงบ แนะนำให้ซื้อเตรียมมาเองตั้งแต่ในเมือง เพราะราคาอาหารที่นี่แพง แต่เราขี้เกียจแบก (เพราะแค่กล้องที่แบกมาก็หนักจะแย่แล้ว) จึงต้องมาฝากท้องมื้อเที่ยงที่โรงแรม Kamikochi Lemeiesta มี Lunch Set ในราคาที่สูงประมาณหนึ่ง (พอรับได้)Kami 04

มื้อเที่ยงของเรา อร่อย แต่ไม่ค่อยอิ่ม 555

6005_JP01_2017_913

6005_JP01_2017_917

ด้านหน้าโรงแรมมีต้นซากุระกำลังบานพอดี

6005_JP01_2017_928

อิ่มท้องแล้ว ได้เวลาเดินต่อ วิวระหว่างทางก็ยังทำให้ตื่นตาตื่นใจได้เสมอ

6005_JP01_2017_934

6005_JP01_2017_939

6005_JP01_2017_941

6005_JP01_2017_946

จุดสุดท้ายในการเดินป่าของเรา คือ Kappabashi หรือสะพาน Kappa
ตรงบริเวณนี้ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ผิดกับระหว่างทางที่เราเดินมา
จุดนี้จะเป็นจุดที่เห็น Japan Alps ได้ใกล้ที่สุด

6005_JP01_2017_985

6005_JP01_2017_982

ผู้คนมากมาย จะถ่ายรูปก็ต้องหาจังหวะดีๆ

6005_JP01_2017_981

แค่ได้มาเห็นวิวแบบนี้ ก็คุ้มแล้ว

6005_JP01_2017_964

หากใครอยากซื้อขนมหรือของฝาก มีร้านขายของอยู่ใกล้ๆ กับสะพาน Kappa

6005_JP01_2017_988

การเดินทางกลับ ให้เดินจากสะพาน Kappa ไปที่ Kamikochi Bus Terminal
ให้มองหาชานชาลาที่จะกลับไปสถานี Shinshimashima (เช็ครอบรถบัสได้จากโบรชัวร์ที่ได้จากสถานี)
พอเจอชานชาลาแล้ว ให้นำตั๋วเหมาที่เราซื้อไว้ ไปยื่นตรงบริเวณช่องจำหน่ายตั๋วและแจ้งรอบรถที่จะกลับ
พนักงานจะให้บัตรคิวเรามา ให้รอพนักงานตรงชานชาลาประกาศเรียกขึ้นรถตามคิวอีกที
ไม่ต้องกังวลเรื่องจองที่ หรือแย่งที่นั่งกันนะครับ ใครได้เลขคิวก่อนก็ได้ขึ้นก่อนตามลำดับ

6005_JP01_2017_710

พอถึงสถานี Shinshimashima ก็ขึ้นรถไฟเพื่อกลับไปสถานี Matsumoto ได้เลยครับ

6005_JP01_2017_989


สรุปการเดินทางแบบ One day trip จาก Tokyo ของเรา

– ออกเดินทางจากสถานี Oimachi 5.46 น. เพื่อมาขึ้น Shinkansen ที่สถานี Tokyo ไป Nagano เวลา 6.16 น.
– เดินทางถึง Taisho Ike เวลา 10.30 น. (โดยประมาณ)
– เดินจาก Taisho Ike ไปถึงสะพาน Kappa เกือบบ่ายสาม (เรื่อยเปื่อยมาก 555)
– กลับจาก Kamikochi รอบ 15.15 น. ถึงสถานี Matsumoto 17.15 น.
– ถึง Tokyo ประมาณ 3 ทุ่ม

ถามว่าเหนื่อยมากไหม  ก็ไม่มากเท่าที่คิดนะครับ เพราะเวลาเดินทางก็สามารถหลับงีบได้เป็นระยะ
หากมีเวลาจำกัดแบบนี้ ก็ไม่ยากที่จะมา Kamikochi เพียงแต่ต้องจัดเวลาดีๆ เพราะรถมีรอบน้อย
และที่สำคัญ ควรดูพยากรณ์อากาศให้ดีก่อนมา และหลีกเลี่ยงวันเสาร-อาทิตย์ และวันหยุดของคนญี่ปุ่น

5911_Lomo400_005

Kamikochi อาจไม่ได้เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยนัก
แต่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะอยากให้เห็นว่าในญี่ปุ่นก็ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม
และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้ได้มาลองสัมผัสกัน หวังว่าเพื่อนๆ ที่ได้เข้ามาชม
จะได้รับแรงบันดาลใจในการออกเดินทาง และเก็บ Kamikochi ไว้ใน Plan การไปญี่ปุ่นคราวหน้าด้วยนะครับ
แล้วไว้ถ้ามีโอกาส จะเข้ามาแนะนำที่เที่ยวใหม่ๆ ให้ได้ชมกันอีก
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

5911_Lomo400_002

5911_Lomo400_001
5911_Lomo400_003