Fukushima : 10 Places you must go in Autumn

IMG_FCFD6A9AB8CC-1

เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นแล้ว หลายๆ คนคงมีแพลนหรือใฝ่ฝันอยากจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นสักครั้ง (หลายคนอาจจะอยากไปซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง) ซึ่งเราเองก็ได้มีโอกาสไปชมใบไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งใน Tokyo, Kyoto, Osaka แต่วันนี้เราอยากจะนำประสบการณ์ดีๆ และสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น และอยากให้ได้ไปลองสัมผัสความสวยงามนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง

สถานที่ที่ว่านั่นก็คือ จังหวัด Fukushima นั่นเอง เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วทางจังหวัด Fukushima และทางเพจ WeLoveFukushima ได้เชิญเราไปท่องเที่ยวในจังหวัด Fukushima เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งช่วงที่เราไปก็ตรงกับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแพลนไปเที่ยวที่ Fukushima เลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้พอจัดทริปเข้าจริงๆ ก็พบว่ามีสถานที่ที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมด และแต่ละที่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล เรียกได้ว่าพอกลับมาแล้ว ก็เตรียมแพลนไปซ้ำในช่วงฤดูอื่นทันที

สำหรับรีวิวนี้ เราจะรวบรวมสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมกับข้อมูลการเดินทางคร่าวๆ ให้ได้อ่านกันสบายๆ ส่วนใครอยากอ่านแบบละเอียดจัดเต็มหรืออยากชมรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของจังหวัด Fukushima สามารถเข้าไปชมได้ทาง website :  https://www.welovefukushima.com หรือจะเข้าไปชมที่หน้า website ของเราเองที่  http://www.porsuke.com

ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามมาเที่ยวกันได้เลยครับ…

DSC06395


Fukushima อยู่ตรงไหน?

Fukushima เป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาค Tohoku ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น คลอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคมากกว่า 150 กม. ลึกเข้าไปในภูเขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู

 

DSC06053

การเดินทาง

จาก Tokyo สามารถเดินทางไปจังหวัด Fukushima ด้วยรถไฟ Shinkansen ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ครึ่ง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถซื้อ JR Pass หรือ JR East Pass (Tohoku Area) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการนั่งรถไฟ Shinkansen และรถไฟของบริษัท JR ได้ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ทางการท่องเที่ยวจังหวัด Fukushima ได้ให้ JR East Pass (Tohoku Area) แบบ Flexible สำหรับใช้ 5 วันมาด้วย ทำให้ประหยัดค่าเดินทางได้เยอะเชียวแหละ

JR Pass หรือ JR East Pass (Tohoku Area) ต้องซื้อจากประเทศไทยก่อนเดินทาง แล้วค่อยไปแลกเป็น JR Pass ตัวจริงเมื่อไปถึงประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้เราขึ้นเครื่องไปลงที่สนามบิน Narita ซึ่งจุดแลก JR Pass จะอยู่ที่ชั้น B1 (JR EAST Travel Service Center) อยู่ตรงข้ามกับสถานี Narita Express โดยใช้หลักฐานการซื้อที่ได้จากประเทศไทย, Passport ของเรา และแจ้งวันที่จะเริ่มใช้ Pass ให้เจ้าหน้าที่ทราบ

DSC06292

จัดแผนการท่องเที่ยวยังไงดี?

เนื่องจากครั้งนี้เราไปเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี จึงขอแนะนำเกี่ยวกับการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Fukushima คร่าวๆ แล้วกัน

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Fukushima สามารถเริ่มชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นกับสถานที่ที่เราจะไปชมด้วย ว่าจะไปชมที่ไหน ด้วยพื้นที่ของจังหวัดที่กว้าง และมีภูมิประเทศหลากหลาย ทำให้การเปลี่ยนสีของใบไม้ในแต่ละจุดจะไม่พร้อมกัน

ช่วงปลายเดือนกันยาถึงกลางเดือนตุลาคม : Bandai Azuma Skyline (Jododaira), Mount Adatara
บริเวณที่สูงบนภูเขา จะเริ่มเปลี่ยนสีก่อนจุดอื่นๆ ช่วงพีคน่าจะประมาณสัปดาห์ที่ 1 – 2 ของเดือนตุลาคม

ช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน : เป็นช่วงเวลาที่สามารถชมได้หลายที่ แต่ถ้าเป็นที่ที่มีใบแปะก๊วย อาจจะช้ากว่าที่อื่นๆ
– กลางถึงปลายเดือนตุลาคม : Bandai Azuma Lakeline (Goshikinuma, Nakatsugawa Gorge), Bandaisan Gold Line, Aizu-Miyashita)
– ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน : เมือง Aizu-Wakamatsu (Ouchi-juku, Tono Hetsuri, Tsuruga Castle)

สำหรับแผนการเดินทางของเรา เนื่องจากเราไปช่วงวันที่ 20-27 ตุลาคม ซึ่งแม้จะเลยช่วงพีคของ Azuma Bandai Skyline ไปแล้ว แต่ก็ยังเก็บไว้ในแพลน จึงเลือกที่จะเที่ยวในตอนบนของจังหวัด Fukushima ก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาเที่ยวในแถบ Aizu-Wakamatsu ตามแผนดังนี้

21/10/2017 – เดินทางถึง Fukushima
22/10/2017 – Mount Adatara (ขึ้น Adatara Ropeway) *พายุเข้า ไม่ได้เห็นอะไรเลย T_T
23/10/2017 – เที่ยวในเมือง Koriyama
24/10/2017 – Azuma Bandai Skyline / Lake Line / Gold Line ไปพักที่ Aizu-Wakamaysu
25/10/2017 – Ouchi Juku / Tono Hetsuri / Tsuruga Castle
26/10/2017 – Goshikinuma / Inawashiro Lake
27/10/2017 – ชมวิวรถไฟ Tadami Line ที่ Aizu-Miyashita

รีวิวนี้เราจะไม่ได้ไล่ไปตามแพลนเที่ยวของเรา แต่จะไล่ลำดับสถานที่เที่ยวตามช่วงระยะเวลาที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีไล่จากเปลี่ยนก่อนไปหลังสุด เพื่อที่ว่าจะได้วางแผนเที่ยวกันได้สะดวก ส่วนจะมีที่ไหนบ้างตามไปชมกันครับ

DSC06403

 1. Bandai Azuma Skyline (Jododaira)

เป็นเส้นทางที่คนนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันมากที่สุด ร่ำลือว่าถนนเส้นนี้สวยมากไม่ว่าจะมาในฤดูไหนก็ตาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ คือ ช่วงปลายเดือน ก.ย. – ต้นเดือน ต.ค.

DSC06404

DSC06416

จุดชมใบไม้แดงที่เป็น Highlight ของที่นี่คือที่ราบสูง Jododaira แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ขึ้นไปถึงจุดนั้นเพราะวันที่ไปมีพายุหิมะเข้าพอดีทำให้ไม่สามารถขับรถขึ้นไปต่อได้ แต่วิวระหว่างทางที่ขับรถขึ้นไปก็มีจุดให้แวะถ่ายรูปได้อยู่เรื่อยๆ ขนาดช่วงที่เราไปใบไม้ร่วงไปพอสมควรแล้วแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความสวยงาม และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่รายล้อมอยู่ตลอดเส้นทางนี้

DSC06393

การเดินทาง : แนะนำเช่ารถขับดีที่สุดครับ เพราะสะดวกและสามารถควบคุมเวลาในการเที่ยวแต่ละจุดได้ดีกว่า
Jododaira (mapcode : 475181060*30)

แต่ถ้าไม่สะดวกขับรถก็มีรถบัสให้บริการที่หน้าสถานี JR Fukushima (รถขับไปถึง Jododaira ไม่ได้แวะจอดระหว่างทาง) สามารถสอบถามรอบรถและจุดขึ้นรถได้ที่ Tourist Information Center ที่สถานี JR Fukushima ได้เลยครับ

DSC06511

2. Bandai Azuma Lakeline

เป็นเส้นทางที่อยู่ต่ำลงมากว่า Skyline ขับผ่าน Lake ต่างๆ เช่น Akimoto Lake, Hibara Lake และมีจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Nakatsugawa gorge, Lake Hibara และ Goshikinuma หรือบึงน้ำ 5 สี

Nakatsugawa gorge (mapcode : 937003541*44)

DSC06480

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ คือ ประมาณสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือน ต.ค.
แนะนำว่าควรขับรถไปเพราะสะดวกที่สุด (หากไม่มีแพลนเช่ารถไม่แนะนำให้มาครับ เพราะใช้เวลาเดินทางพอสมควร และรอบรถมีไม่บ่อย)
สามารถชมวิวใบไม้แดงที่มีลำธารตัดผ่านแบบในรูปด้านบนได้จากบนสะพาน แต่ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้เดินลงไปด้านล่างครับ (ทางเดินทำเป็นขั้นบันไดไว้ให้ แต่มีทางชันเป็นบางช่วง ถ้ามีไม้เท้าไว้ใช้ค้ำยันจะปลอดภัยกว่าครับ)

DSC06474

DSC06491

จุดชมวิวบนสะพาน

DSC06439

ทางเดินลงไปลำธารด้านล่าง

DSC06458

Sanko Paradise

DSC06511

DSC06532

ขับรถจาก Nakatsugawa gorge ไม่นานนัก จบพบจุดชมวิว Sanko Paradise ที่สามารถมองเห็นทะเลสาบทั้ง 3 แห่ง คือ ทะเลสาบ Akimoto, ทะเลสาบ Onogawa และทะเลสาบ Hibara จุดสังเกตคือ จะมีรถนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปกันเยอะเลยครับ ตรงนี้อากาศดี วิวสวยมาก

Lake Hibara (mapcode : 413532866*06)

DSC06592
จุดเด่นของ Lake Hibara คือวิวทะเลสาบแบบ Panorama ที่มี Background เป็นภูเขาน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ที่จุดนี้มีบริการเรือสำหรับนั่งชมวิว และสามารถเดินจากจุดนี้ไปที่ Goshikinuma ได้ (ระยะทางประมาณ 3 กม.)

DSC06606

DSC06593

การเดินทาง : จากสถานี JR Inawashiro สามารถนั่งรถบัสเส้นทางเดียวกับที่มา Goshikinuma มาลงที่ป้าย Urabandai-Kougen eki เพียงแต่รอบรถจะน้อยกว่า สามารถสอบถามรอบรถบัสได้ที่ Tourist Information Center ที่สถานี Inawashiro หรือสถานี Aizu-Wakamatsu

Goshikinuma

DSC06880

Goshikinuma หรือบึงน้ำ 5 สี เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของ Fukushima บึงนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Bandai ส่งผลให้เกิดบึงขนาดต่างๆ กัน และด้วยแร่ธาตุที่อยู่ตามบึงต่างๆ ส่งผลให้น้ำในบึงมีสีที่แตกต่างกันไปด้วย จุดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ Bishamon-numa ซึ่งเป็นบึงที่มีขนาดใหญ่สุดและมีน้ำที่สีสวยที่สุด แต่เราไม่ได้จบอยู่แค่ที่บึงแรกเท่านั้น เพราะไฮไลท์จริงๆ ของที่นี่ ก็คือการเดินชมบึงทั้งหมด ในระยะทางรวมประมาณ 3 กม. ซึ่งพอไปสุดทางก็จะไปบรรจบที่ Lake Hibara ได้

DSC06917

ระหว่างทางจะมีแผนที่และป้ายบอกชื่อบึงต่างๆ ให้ทราบ

DSC06922

การเดินทาง : จากสถานี JR Inawashiro นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Goshikinuma-Iriguchi มีรถออกทุก 1/2 ถึง 1 ชม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที

3. Bandaisan Gold Line

DSC06612
ถัดมาจาก Lakeline เข้าสู่ Gold Line มีเส้นทางเดินป่ายอดนิยม คือ Happodai ซึ่งมีความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี  และมีน้ำตก Baya-ike ให้ได้แวะชมความสวยงามกันด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชม คือ ประมาณกลางเดือน ต.ค. ส่วนการเดินทาง แนะนำให้ขับรถมาสะดวกที่สุดครับ เพราะมีจุดสวยๆ ให้ได้แวะถ่ายรูปข้างทางตลอด

DSC06609

น่าเสียดายช่วงที่เราไปใบไม้ร่วงไปเยอะแล้ว

DSC06614

DSC06617

แต่ใบไม้ตามภูเขาที่เห็นได้ตลอดเส้นทางที่ขับรถยังคงสวยงามอยู่
เหลืองอร่ามสมกับชื่อ Gold Line จริงๆ

4. Adatara

DSC05985

Mount Adatara หรือภูเขา Adatara เป็นอีกภูเขาหนึ่งที่มีชื่อเสียงของ Fukushima และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 แห่ง ของภูเขาที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่เล่นสกียอดนิยมของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว แต่จากการหาข้อมูลมา ที่นี่ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความสวยงามไม่แพ้ Mount Bandai เช่นกัน (ดูได้จากในรูปโปสเตอร์)

ช่วงเวลาที่ดีในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Mount Adatara เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคม

น่าเสียดายว่าช่วงที่เราไปมีพายุเข้าพอดี ทำให้มองไม่เห็นทัศนียภาพใดๆ บนภูเขาเลย แต่เราได้ทำรีวิวการเดินทางไว้ให้แล้วในนี้ : http://www.porsuke.com/2017/11/30/fukushima_day2/ สามารถตามไปอ่านกันได้เลย

5. Ouchi juku

DSC06735

ถ้าหากพูดชื่อหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น คงไม่พ้นหมู่บ้าน Shirakawago แต่ที่ Fukushima ก็มีหมู่บ้านน่ารักๆ และมีเอกลักษณ์ไม่แพ้กันอย่าง Ouchi juku ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วย

DSC06691

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ คือประมาณปลายเดือน ต.ค. ถึงต้นเดือน พ.ย.

DSC06714

การเดินทางก็สะดวก เพียงนั่งรถไฟจากสถานี Aizu-wakamatsu ไปลงที่สถานี Yunokamionsen แล้วต่อรถ Shuttle Bus จากสถานีไปลงที่ปากทางเข้าหมู่บ้านได้เลย

DSC06751

รายละเอียดการเดินทางสามารถอ่านได้จากลิงค์นี้ครับ http://www.porsuke.com/2018/04/09/fukushima_day5/

6. Tono Hetsuri

DSC06778

Tono Hetsuri หรือหน้าผาหินล้านปี  ซึ่งเกิดจากหน้าผาหินที่ถูกน้ำในแม่น้ำ Okawa กัดเซาะ โดยใช้เวลานับล้านปีจนออกมารูปร่างหน้าตาคล้ายกับเจดีย์ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีบรรดาใบไม้บนต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าผาต่างแข่งกันเปลี่ยนสีหลากหลาย ทั้งแดง เหลือง ส้ม สลับกันไป จัดเป็นอีก Landmark ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด Fukushima ที่ไม่ควรพลาด

DSC06776

DSC06774

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี คือ ประมาณปลายเดือน ต.ค. ถึงต้นเดือน พ.ย.

DSC06761

การเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี Yonokamionsen ต่อไปอีก 2 สถานี ลงที่สถานี Tonohetsuri
วิวระหว่างทางสวยงามมาก อย่ามัวแต่คุยหรือกดมือถือเล่นกันล่ะ

7. Koriyama

DSC06249

Asaka-Kunitsuko Shrine

แม้ว่า Koriyama จะไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเหมือนจุดอื่นๆ ใน Fukushima เพราะมีความเป็นเมืองค่อนข้างมาก แต่การเดินเล่นในเมือง Koriyama เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและเพลิดเพลินไม่แพ้กัน ซึ่งแต่ละจุดสามารถเดินมาได้จากสถานี JR Koriyama หรือจะนั่งรถบัสจากหน้าสถานีมาก็ได้

DSC06124

บริเวณทางเข้า Asaka-Kunitsuko Shrine ที่นี่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก ไม่เสียค่าเข้าชมด้วย

DSC06202

DSC06209

21st Century Anniversary Park สวนสาธารณะใจกลางเมือง Koriyama

DSC06193

DSC06195

ส่วนใครสนใจรีวิวเต็มๆ ของ Koriyama เชิญตามลิงค์นี้ได้เลย http://www.porsuke.com/2017/12/03/fukushima_day3/

8. Tsuruga-jo

DSC06829

ปราสาท Tsuruga เป็นปราสาทที่ขึ้นชื่อของเมือง Aizu-Wakamatsu ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่ามาชมใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน และที่สำคัญช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีการเปิดไฟ Light-up ตั้งแต่ประมาณ 17.00 น. จนถึง 21.00 น. ด้วย

ช่วงเวลาที่ดีในการมาชมใบไม้แดง คือช่วงปลายเดือน ต.ค. – ต้นเดือน พ.ย.

การเดินทาง : จากสถานี Aizu-Wakamatsu นั่ง Classic town bus มาลงที่ป้าย A28 Kitademaru Odouri (แนะนำให้นั่ง Bus คันสีเขียว จะถึงไวกว่าครับ)

DSC06821

DSC06819

ใบไม้แดงรอบปราสาท

DSC06845

Light up ในยามค่ำคืน

DSC06855

9. Tenkyokaku

DSC07030

Tenkyokaku คือบ้านพักตากอากาศของเจ้าชาย Arisugawa Takehito แห่งราชวงค์ Meiji ซึ่งถูกมอบให้อยู่ในความดูแลของจังหวัด Fukushima เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952

บ้านพักตากอากาศนี้ ตั้งอยู่บนเนินสูงติดกับ Lake Inawashiro บริเวณด้านนอกของตัวบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ซึ่งทยอยกันเปลี่ยนสีสวยงาม สามารถเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆ บ้านได้ ส่วนใครอยากจะชมการตกแต่งภายในบ้าน และข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยโบราณที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ก็สามารถเสียเงินค่าตั๋วเข้าไปชมได้เช่นกัน

DSC07035

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี คือ ช่วงปลายเดือน ต.ค. ถึง ต้นเดือน พ.ย.

DSC07032

การเดินทาง : จากสถานี JR Inawashiro นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Nagahama (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) สามารถขอตารางรถบัสได้ที่ Tourist Information Center สถานี Aizu-Wakamatsu หรือ Inawashiro

10. สถานี AizuMiyashita (จุดชมวิวรถไฟ Tadami)

DSC07289

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดในการมาเที่ยว Fukushima นั่นคือการมาถ่ายรูปรถไฟ Tadami Line ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี แม้ว่าช่วงที่เรามาจะยังไม่ถึงช่วงพีค แต่ก็สวยงามคุ้มค่าแก่การมาชม

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้แดง : ต้นเดือน พ.ย.

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Tadami line จากสถานี Aizu-Wakamatsu มาลงที่สถานี AizuMiyashita (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆ)
แล้วต่อรถตู้หน้าสถานี (ค่าบริการ 500 เยน/ เที่ยว) ไปยังจุดชมวิว (ขากลับสามารถเดินลงมาที่สถานีได้ ระยะทางประมาณ 1.5 กม.)

DSC07166

จุดชมวิวที่นี่จะมีทั้งหมด 3 จุด คือ A, B และ C + D (จุดสูงสุด สามารถถ่ายรูปรถไฟได้ทั้งสองมุมในที่เดียว)
ซึ่งถ้าถามเราว่าจุดไหนควรค่ามากสุด เราแนะนำ C + D เพราะอยู่สูง เห็นวิวดีสุดๆ แต่ก็ต้องพกเลนส์ที่สามารถซูมได้พอสมควร แต่ถ้าขี้เกียจเดินหรือมีเลนส์ที่ซูมได้ไม่มาก เราว่าจุด A กับ B ก็สวยงามใช้ได้ เดี๋ยวจะเอารูปแต่ละจุดที่ถ่ายได้มาให้ชมกัน


DSC07169

รูปนี้ถ่ายจากจุด A จะเห็นได้ว่ารอบๆ โดยเฉพาะด้านล่าง จะมีต้นไม้บังค่อนข้างมาก
แต่ระยะอยู่ไม่ไกลจากราง ถ้ามีเลนส์ซูมหรือมา Crop รูปออก ก็พอได้อยู่

DSC07180
รูปนี้ถ่ายจากจุด B จะเห็นว่าค่อนข้างโปร่งมากขึ้น ไม่มีต้นไม้ด้านบนบัง
แต่ต้นไม้ด้านล่างก็ยังบังเยอะอยู่ ถ้าคนสูงๆ หน่อยหรือมีขาตั้งกล้องก็อาจจะพอหลบมุมได้

DSC07223

ส่วนรูปนี้ถ่ายจากจุด C ซูมสุดเลนส์ที่ระยะ 70 mm
(และ Crop ภาพอีกนิดหน่อย)ก็จะได้มุมที่สวยงามแบบนี้

DSC07255

แพนกล้องไปทางด้านซ้ายจะเจอวิวจุด D สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องจากรูปที่จุด C ได้เลย
(รถไฟรอบแรกจะมาถึงจุด C แล้วไป D / รอบที่สองจาก D แล้วไป C ระยะเวลาห่างกันประมาณ 10 นาที)

และทั้งหมดนี้ก็คือส่วนหนึ่งของจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในจังหวัด Fukushima ที่เราได้มีโอกาสไปชมมา
ก็หวังว่าจะพอเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้มีตัวเลือกเพิ่มสำหรับแพลนในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในปีนี้ หรือปีถัดๆ ไปได้อีก ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน มาเยี่ยมชมในเพจของเรานะครับ

แล้วรีวิวต่อไปจะมีอะไรมาแนะนำอีก อย่าลืมติดตามกัน
และถ้าไม่อยากพลาด Content หรือรีวิวใหม่ๆ อย่าลืมกด Like และกด See First กันด้วยนะครับ