Morocco : Before Summer

OverProject 2

azul!

เริ่มต้นทักทายกันด้วยภาษา Berber ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของชาว “Morocco”
ประเทศที่หลายๆ คน (รวมทั้งเราด้วย) เคยสงสัยว่ามีอะไรน่าสนใจ และอยู่ส่วนไหนของโลก?
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยว Morocco
ซึ่งช่วงเวลานี้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว และเราก็โชคดีมากที่อากาศดี ฟ้าสดใสตลอดทั้ง 7 วัน
ทำให้ทริปนี้เราได้ภาพดีๆ แสงสวยๆ มาเยอะแยะเลย
เราจึงอยากจะแนะนำ Morocco ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักผ่านมุมมองของเรา
ให้ได้สัมผัส Morocco ด้วยตากันสักนิด
และครั้งหน้า เราจะพามารู้จักกันอย่างเจาะลึก ผ่านรีวิวแบบเต็มๆ กันอีกที

ดูจบแล้วถ้าชอบ…จะกดหาตั๋วโปรไว้ก่อนก็ไม่ว่ากันนะครับ

Camera : CONTAX T2 , Minolta P’s (Panorama shot)
Film : Lomo 100, Lomo 400
Scan & Dev : Flashbox

6205_P_MorocR1_lomo100_036
เริ่มต้นทริปนี้ที่ Casablanca เมืองที่ใครๆ ก็เคยได้ยินชื่อ แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงของ Morocco หรอกนะ
สถานที่เที่ยวที่เป็น Landmark ของ Casablanca ก็คือ “Hassan II Mosque”

6205_P_MorocR1_lomo100_030

ที่นี่จัดเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
ด้านในสามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน และลานด้านนอกจุได้ประมาณ 80,000 คน

6205_P_MorocR1_lomo100_035

6205_P_MorocR1_lomo100_037

6205_P_MorocR1_lomo100_033

สถาปัตยกรรมของมัสยิดนี้ก็สวยงามอลังการณ์ไม่แพ้ขนาดเช่นกัน

6205_P_MorocR1_lomo100_013

คาเฟ่เก๋ๆ ที่นี่เขามี %Arabica กาแฟชื่อดังจาก Kyoto มาเปิดสาขาอยู่ใจกลางเมืองด้วย

6205_T2MorocR1_Por400_017

จาก Casablanca เดินทางต่อประมาณ 80 กม. เพื่อไปยัง Rabat ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Morocco
จุดแรกที่ได้ไปแวะก็คือ “Kasbah of Udayas” ซึ่งเป็นป้อมปราการที่สร้างติดกับมหาสมุทร Atlantic
ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ทำให้เราสามารถชมวิวมหาสมุทร Atlantic และเมือง Rabat ได้จากจุดนี้

6205_P_MorocR1_lomo100_011

6205_P_MorocR1_lomo100_004

วิวมหาสมุทร Atlantic จากบนป้อมปราการ

6205_P_MorocR1_lomo100_010

6205_P_MorocR1_lomo100_006

บรรยากาศด้านบนของป้อมปราการ

6205_P_MorocR1_lomo100_007

6205_T2MorocR1_Por400_006

บรรยากาศในชุมชนระหว่างทางเดินขึ้นไปยังป้อมปราการ
บ้านเมืองที่นี่มีความคุมโทนมาก อย่างบริเวณนี้บ้านทุกบ้านจะทาสีฟ้าครึ่งล่าง ครึ่งบนเป็นสีขาว

6205_T2MorocR1_Por400_030

6205_T2MorocR1_Por400_008

6205_T2MorocR1_Por400_002

ถัดจาก Kasbah of Udayas ไปไม่ไกล จะพบกับ Landmark ของ Rabat นั่นคือ Hassan Tower
และ Mausoleum of Mohammed V ซึ่งเป็นสุสานของกษัตริย์ Mohammed V มีทหารยามเฝ้าประตูทางเข้า – ออกทั้ง 2 ฝั่ง

6205_P_MorocR1_lomo100_008

6205_P_MorocR1_lomo100_0056205_T2MorocR1_Por400_023

คืนแรกเราพักที่ Riad ในย่าน Old Medina หรือย่านเมืองเก่าของ Rabat
ทำให้มีเวลาเดินสำรวจแถวนั้นบ้างเล็กน้อยก่อนพระอาทิตย์จะตก
สิ่งหนึ่งที่อยากเตือนเกี่ยวกับการถ่ายรูปใน Morocco คือ อย่าถ่ายรูปคน โดยเฉพาะคนแก่
เพราะคุณอาจจะโดนเขาเดินเข้ามาด่าและให้ลบรูปได้ (เพื่อนเราโดนไปแล้ว) แต่โชคดีที่การใช้กล้องฟิล์มเล็กๆ
ก็ลดความน่าสะดุดตา และดูเป็นมิตรกว่ากล้องใหญ่ได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไงก็ควรระมัดระวังอยู่ดี

6205_T2MorocR1_Por400_026

วิถีชีวิตของผู้คนใกล้กับ Kasbah of Udayas ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองใหม่ของ Rabat

6205_P_MorocR1_lomo100_014

วันที่ 2 ใน Morocco เรานั่งรถกันยาวนานประมาณ 5 ชม. เพื่อมาเที่ยวยังเมืองที่ได้ฉายาว่า “Blue Pearl”
นั่นก็คือเมือง “Chefchaoun” ที่ได้ฉายานี้ก็เพราะว่าเมืองนี้ทาด้วยสีฟ้าทั้งเมือง
เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่มา Morocco ยังไงก็ต้องมาแวะเมืองนี้สักครั้ง ไม่อย่างนั้นคงเหมือนมาไม่ถึง

6205_T2MorocR1_Por400_022

มุมนี้เป็นจุดชมวิวข้างทาง ก่อนจะเข้าไปยังตัวเมือง Chefchaoun
ส่วนที่เป็นจุดท่องเที่ยวนั่นคือส่วนที่อยู่ตรงเชิงเขา ที่เป็นหมู่บ้านสีฟ้าทั้งหมด

6205_T2MorocR1_Por400_020

ประตูเมือง Chefchaoun มีสีฟ้าเป็นเอกลักษณ์

6205_T2MorocR1_Por400_024

บ้านเรือนสีฟ้าตั้งไล่ระดับกันอยู่ตรงเชิงเขา
แนะนำให้นอนค้างในเมืองสักคืน มีมุมให้เดินถ่ายรูปกันได้ตั้งแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ

6205_T2MorocR1_Por400_016

The Blue Street : จุดถ่ายรูปยอดนิยมในเมือง Chefchaoun

6205_P_MorocR1_lomo100_012

HAMSA : Cafe ที่วิวดีที่สุดใน Chefchaoun

6205_P_MorocR1_lomo100_021

DarSababa : Riad ที่เราพักที่ Chefchaoun อยู่ในใจกลางของเมือง และมีวิว Rooftop ที่ดีงามสุดๆ

6205_P_MorocR1_lomo100_025

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คือ การขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกที่ Spanish Mosque
สามารถเดินขึ้นมาได้จากใจกลาง Medina ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 – 30 นาที (แล้วแต่กำลังขา)

6205_T2MorocR2_Por400_036

6205_T2MorocR2_Por400_033

บรรยากาศระหว่างทางเดินขึ้น Spanish Mosque

6205_T2MorocR2_Por400_037

6205_T2MorocR2_Por400_030

บรรยากาศเมือง Chefchaoun ก่อนพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า

6205_T2MorocR2_Por400_011

จากเมือง Chefchaoun เราเดินทางต่อไปยัง Fes อดีตเมืองหลวงของ Morocco
เมืองนี้จัดเป็นอีกเมืองที่ใหญ่และมีผู้คนอาศัยอยู่มาก จุดขายของที่นี่คือ Medina ที่ใหญ่มากๆ
เรียกว่าใหญ่ที่สุดใน Morocco ก็ว่าได้ ทำให้ที่นี่เราต้องอาศัย Local Guide เพื่อพาเดินไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ
ซึ่งถ้านับระยะทางเดินรวมทั้งหมดใน Medina จะเป็นระยะทางถึง 30 กม. แต่เราเดินเที่ยวกันแค่ 6 กม.เท่านั้น

Moroc02

ภายใน Medina จะมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ Morocco ที่สวยงาม
อาคารเหล่านี้เคยเป็นโรงเรียนของชาวมุสลิม ซึ่งใน Medina ก็มีโรงเรียนแบบนี้อยู่หลายที่
แต่จุดที่ไกด์พาไปต้องเสียค่าเข้าชม ไกด์บอกว่าดูที่เดียวก็พอ ที่อื่นๆ ก็คล้ายกันหมด

6205_T2MorocR2_Por400_001

บรรยากาศภายใน Fes Medina

6205_T2MorocR2_Por400_013

เด็กๆ เพิ่งเลิกเรียนพอดี

6205_P_MorocR1_lomo100_023

และ Hi-light อีกอย่างของ Fes ก็คือ Chouara Tannery
เป็นสถานที่ฟอกหนังและย้อมสีที่ใหญ่ที่สุดใน Morocco
ใครชอบเครื่องหนังที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อกัน ณ ที่ผลิตเลยแหละ แต่ราคาก็แรงใช้ได้อยู่

6205_P_MorocR1_lomo100_015

เราสามารถเข้าไปชมที่จุดนี้ได้โดยไม่เสียเงิน
แต่เจ้าของร้านก็จะทำการขายกับเราไปด้วย ถ้าขี้เกรงใจก็มีโอกาสได้ของติดไม้ติดมือออกมาแน่นอน

Moroc01

6205_T2MorocR2_Por400_003

บริเวณจุดชมวิวที่ Chouara Tannery

6205_T2MorocR2_Por400_028

ภายใน Medina ของ Fes ที่กว้างมาก ทำให้มีมัสยิดกระจัดกระจายอยู่หลายที่
และแทบทุกที่ที่เราผ่านไม่อนุญาตให้คนศาสนาอื่นเข้าไปได้
และแต่ละที่ก็จะมีเวลาละหมาดไม่ตรงกัน (แต่อาจจะเหลื่อมกันไม่มาก)
เผื่อว่ามาที่แรกไม่ทัน จะได้เผื่อเวลาไปอีกที่หนึ่งได้

Moroc03

6205_T2MorocR2_Por400_016

เราใช้เวลาเดินเที่ยวใน Fes Medina ประมาณ 3-4 ชม. ไกด์ก็พาเราไปปิดทริปของวันนี้ที่จุดชมวิวของเมือง Fes
จากมุมนี้สามารถมองเห็นเมืองได้แบบ Panorama จะเห็นได้ว่าเมืองนี้ใหญ่มากจริงๆ (นี่เฉพาะส่วนที่เป็นเมืองเก่านะ)

6205_P_MorocR2_lomo100_011

วันต่อมาถือว่าเป็นวันที่นั่งรถนานที่สุดก็ว่าได้ เพราะเราต้องเดินทางจาก Fes ไปยังทะเลทราย Sahara
ซึ่งอยู่ในเมือง Merzouga ระยะทางกว่า 500 กม. ใช้เวลาประมาณ 7 – 8 ชม.

6205_P_MorocR2_lomo100_010

แต่ไม่ต้องกลัวว่านั่งรถนานแล้วจะเบื่อ เพราะระหว่างทางมีวิวสวยๆ ให้ชมกันตลอด
แนะนำว่าอย่าเผลอหลับยาวจะดีกว่า

6205_P_MorocR2_lomo100_034

6205_P_MorocR2_lomo100_001
เราเดินทางมาถึงทะเลทราย Sahara เกือบ 6 โมงเย็น คนขับรถจะพาเรามาส่งที่ทางเข้า
แล้วจะมีรถ 4WD ของ Camp ที่เราจะเข้าพักมารอรับ เพื่อส่งเราไปยังจุดขึ้นอูฐ

เพราะว่าวันนี้ เราจะขี่อูฐเข้าไปในแคมป์ และชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทะเลทราย Sahara กัน!

6205_P_MorocR2_lomo100_032

คนนำขบวนอูฐของเรา มีหน้าที่คอยดูแลและคอยถ่ายรูปให้เป็นระยะ

6205_T2MorocR3_lomo400_033

มีหลายขบวน ที่มุ่งหน้าไปยังแคมป์ต่างๆ
การนั่งบนหลังอูฐท่ามกลางทะเลทรายแบบนี้ ก็ได้บรรยากาศและความทรงจำที่ดีเหมือนกันนะ

6205_P_MorocR2_lomo100_003

ชมวิวพระอาทิตย์ตกกลางทะเลทราย Sahara

6205_T2MorocR3_lomo400_030

เราพักกันที่ Orient Desert Camp ได้ยินว่านอนแคมป์อย่าคิดว่าต้องไปลำบากเหมือนเข้าค่ายลูกเสือ
เพราะแคมป์นี้ไฮโซมาก แต่ละแคมป์มีเตียงนอนอย่างดี มีห้องน้ำในตัว มีไฟให้ใช้ ไม่ต้องจุดเทียนอย่างที่คิด
แถมด้วยอาหารจัดเต็มทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้า ไม่ต้องก่อไฟ หุงข้าวกันเองนะ

6205_T2MorocR3_lomo400_034

ตอนเช้าก็ตื่นมาเก็บภาพทะเลทรายก่อนกลับ

6205_T2MorocR3_lomo400_013

6205_T2MorocR3_lomo400_017

สักครั้งหนึ่งที่ได้มานอนกลางทะเลทราย Sahara แบบนี้ มันดีมากจริงๆ นะ

6205_P_MorocR2_lomo100_002

จาก Merzouga เราเดินทางต่อไปยังเมือง Ouarzazate ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 – 6 ชม.
ระหว่างทางไกด์ก็แวะให้เราพักทานข้าวกันก่อน

6205_T2MorocR3_lomo400_011

ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นคำเตือน (สำหรับนักท่องเที่ยว) ดีไหม? เกี่ยวกับผู้คนใน Morocco ที่ยังไงก็ต้องได้เจอแน่ๆ
เพราะคนที่นี่ชอบทักทายนักท่องเที่ยวมาก เห็นหน้าเอเชียก็ทัก “หนีห่าว” “คอนนิจิวะ” เหมารวมไปหมดว่าเป็นคนจีน คนญี่ปุ่นแน่ๆ
(แต่ยังไม่เจอใครทัก “สวัสดี” สักคน) ซึ่งการทักทายส่วนใหญ่มักมีจุดประสงค์แอบแฝง เช่น ชักชวนเราไปร้านค้า ร้านอาหาร
หรือเสนอขายของแบบ Direct sell กันไปเลย กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ “เด็ก” ที่มักจะเข้ามาหาด้วยการยื่นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำเอง
(ส่วนใหญ่ก็งานสานปลา สานรูปสัตว์ต่างๆ อย่างเด็ก 2 คนในรูปนี่แหละ) และบอกเราว่าเป็นของขวัญ ให้ฟรี
รวมถึงพยายามยัดเยียดใส่มือ แม้เราจะปฏิเสธก็ตาม

พอเรารับมาปุ๊บ ก็จะขอเงินทันที ไม่ก็ขอขนมที่เรากำลังกินอยู่นี่แหละ
ขอกันซื่อๆ เลย สุดแท้แต่จะให้หรือไม่ให้ก็แล้วแต่ (เพราะถ้าไม่ให้แล้วโดนเด็กด่าก็ฟังไม่ออกอยู่ดี)

ส่วนเราก็ให้เงินไปนิดหน่อย แลกกับการขอถ่ายรูปน้องๆ มาเป็นที่ระลึกสักรูป
(รวมถึงเอาน้องมาเมาท์ในนี้ด้วย 555)

6205_P_MorocR2_lomo100_008

6205_T2MorocR3_lomo400_005

บรรยากาศและวิวระหว่างทางจาก Merzouga ไปยัง Ouarzazate

6205_P_MorocR2_lomo100_012

Todgha Gorge : อารมณ์ประมาณ Grand Canyon เป็นส่วนหนึ่งของ High Atlas Mountain
สูงประมาณ 160 เมตร ตั้งเรียงรายไปตามทาง

6205_T2MorocR3_lomo400_002

6205_P_MorocR2_lomo100_009

มีลำธารเล็กๆ ทอดตัวไปกับ Todgha Gorge

6205_P_MorocR2_lomo100_019

ริมถนนก็มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของ
คนที่นี่ส่วนใหญ่น่ารัก เป็นมิตร ชอบทักทายนักท่องเที่ยว

6205_P_MorocR2_lomo100_033

เข้าสู่เมือง Ouarzazate เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสถานที่ที่ Hollywood ชอบมาถ่ายทำภาพยนตร์
จนมีการทำโรงถ่ายภาพยนตร์ไว้ให้เช่า และเป็นแหล่งท่องเที่ยว

6205_P_MorocR2_lomo100_028

Ksar of Ait Ben Haddou : 1 ใน 9 ของ UNESCO World Heritage Sites
อดีตเคยเป็นป้อมปราการ และที่พักระหว่างทางของกองทัพที่เดินทางจากยุโรป มายังทวีปแอฟริกา
แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็น Location ถ่ายทำภาพยนตร์ที่เรารู้จักกันหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น The Mummy, Gladiators, Prince of Persia และซีรีส์เรื่องดังอย่าง Game of Thrones เป็นต้น

6205_T2MorocR3_lomo400_018

วิวจากด้านบนของ Ait Ben Haddou

6205_P_MorocR2_lomo100_029

วิวภูเขาระหว่างทางจาก Ouarzazate ไปยัง Marrakesh

6205_P_MorocR2_lomo100_020

Le Jardin Majorelle

Marrakech เมืองที่หลายคนคุ้นชื่อ และเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
มีหลายสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ ที่เป็นจุดน่าสนใจ ถ่ายรูปสวยมาก
แต่น่าเสียดายที่เมืองนี้เป็น Tourist attractions ไปแล้ว จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ดูวุ่นวาย
ต่างจากเมืองแรกๆ ที่เราได้สัมผัสมา โดยส่วนตัวแล้วเราจึงไม่ค่อยประทับใจที่นี่เท่าไรนัก

6205_T2MorocR3_lomo400_024

Moroc04

Marrakech มี Riad และโรงแรมที่ตกแต่งสวยงามให้เลือกพักมากมาย
และสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือการถ่ายรูปใน Riad สวยๆ ไว้อัพลง Social สักรูปนี่แหละ

6205_P_MorocR2_lomo100_023

Jemaa el-Fna : ถ้าให้เปรียบกับบ้านเราก็คงคล้ายกับตลาดนัดจตุจักร
ที่เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว มีสินค้าทั้งของกิน ของใช้ ของฝากมากมายที่นี่
แต่เรามาที่นี่เพื่อถ่ายรูปจัตุรัสจาก Rooftop ของร้านอาหารสักร้าน ไม่ได้มาช็อปปิ้งหรอก

6205_T2MorocR3_lomo400_023

ร้านไหนวิวดี พอช่วงเย็นคนก็จะเยอะแบบนี้แหละ

6205_T2MorocR3_lomo400_025

6205_T2MorocR4_lomo400_017

ภายใน Medina ของเมือง Marrakech เดินเที่ยวไม่ยาก
มีทั้งพิพิธภัณฑ์ จุดถ่ายรูป และ Cafe ที่น่าสนใจให้ได้เดินชมกันเพลินๆ
หรือจะเดินดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ก็ได้ เพียงแค่ต้องระวังเรื่องการถ่ายรูปอย่างที่เตือนไว้ด้านบน

6205_T2MorocR4_lomo400_013

6205_T2MorocR4_lomo400_006

ร้านค้าหลายร้านก็จัดร้านได้สวยงาม ขออนุญาตเจ้าของร้านก่อนถ่ายรูปก็ดีนะ

6205_T2MorocR4_lomo400_027

ที่ไม่อยากให้พลาด คือ Museum de Marrakech ค่าเข้า 50 DH (ประมาณ 200 บาท)
แต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมด้านในดูแพงเกินราคาไปมาก
ข้อดีอีกอย่างคือคนไม่เยอะ เดินชมสบายๆ ถ่ายรูปได้เพลินๆ
(แต่ด้านในแสงที่ผ่านหลังคาลงมาจะเหลืองมาก ถ้าใช้กล้อง Digital ก็ปรับ White balance กันให้ดี)

Moroc05

6205_P_MorocR2_lomo100_016

Bahia Palace

6205_P_MorocR2_lomo100_021

Bahia Palace : สำหรับเราที่นี่คือที่ที่อยากมามาก เพราะดูจากรูปคือสวย
แต่พอเจอนักท่องเที่ยวที่ต่อคิวเข้าแถวมาที่นี่ ก็รู้สึกเซ็งเล็กน้อย
และพอเข้ามาก็ตามคาดคือคนเยอะมาก ใครรักความสงบ ชอบถ่ายรูปชิลๆ ควรหลีกเลี่ยง

6205_T2MorocR4_lomo400_021

6205_T2MorocR4_lomo400_029

6205_T2MorocR4_lomo400_026

ถ่ายรูปยังไงก็หลบนักท่องเที่ยวไม่ได้

6205_P_MorocR2_lomo100_027

ปิดท้ายทริปนี้โดยการวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น คือเมือง Casablanca อีกครั้ง

6205_P_MorocR2_lomo100_022

เราตั้งใจมาปิดทริปนี้ด้วยการถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ด้านนอกของ Hassan II Mosque
อากาศในวันที่เราไปค่อนข้างเย็น และมีลมพัดจากทะเลมาตลอด
แต่เสื้อผ้าที่เราใส่ไปวันนั้นคือเสื้อเชิ้ตบางๆ และกางเกงชิโนขายาว ซึ่งแทบไม่ได้ป้องกันความหนาวได้เลย

6205_T2MorocR4_lomo400_022

ขอส่งท้ายกระทู้นี้ด้วยภาพ Hassan II Mosque ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
หวังว่าเพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาชม จะได้ทำความรู้จักกับ Morocco มากขึ้น
และอาจจะได้แรงบันดาลใจในการไปเที่ยวที่ประเทศนี้กันสักครั้ง
แล้วไว้กระทู้หน้า เราจะมาแนะนำและรีวิวเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเที่ยว Morocco ให้ได้อ่านกันเต็มๆ

อดใจรอกันอีกนิดนะครับ 🙂

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแวะชมครับ