Shanghai Like Never Before : เซี่ยงไฮ้…ยังไงก็ต้องไปซ้ำ !

IMG_1359
“เซี่ยงไฮ้” มหานครสุดทันสมัยของประเทศจีน ที่มาเที่ยวครั้งเดียวยังไงก็เก็บไม่ครบ

ปีที่แล้วเราได้มาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ครั้งแรก และไล่เก็บ Landmark ที่ต้องไปอย่าง Disneyland / The Bund / Yuyuan Garden / ร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ พร้อมแนะนำ Tips ในการท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ไว้ในรีวิวนี้  http://www.porsuke.com/2018/12/24/shanghaicafeguide

แต่เรากลับพบว่าเซี่ยงไฮ้ ยังมีสถานที่เที่ยว ที่ถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ได้ตามเก็บอีกมากมาย เราจึงตั้งใจจะหาโอกาสมาซ้ำอีกรอบให้ได้
ทริปเซี่ยงไฮ้ 5 วัน 4 คืนครั้งนี้จึงเกิดขึ้น โดยมีจุดหมายหลักๆ คือ ไปที่ไหนก็ได้ ที่ไปแล้วต้องได้รูป!
รีวิวนี้เราจึงพาไปทั้งคาเฟ่, Museum, สถานที่เที่ยวทั้งที่ Mass และไม่ค่อย Mass มาเป็นไกด์ให้เพื่อนๆ ได้ไปตามรอยกัน
ที่สำคัญก็คือสามารถเดินทางไปได้สะดวกด้วย MRT ซึ่งราคาแสนจะถูก (ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 3-8 หยวน ขึ้นกับระยะทาง)
และอย่าลืมออกกำลังกายเพื่อเตรียมกล้ามเนื้อขาไว้เดินกันด้วยล่ะ เพราะเดินเท่ียวชมวิวในเมืองมันเพลินมากๆ

LM105550

ส่วนการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ เราเลือกบินกับ Thai AirAsia X เพราะเขามีไฟล์ทบินตรงจากดอนเมืองไปเซี่ยงไฮ้ทุกวัน
และเวลาไฟล์ทขาไปก็ดีมาก เพราะออกเดินทางจากดอนเมืองช่วงดึก ไปถึงเซี่ยงไฮ้ตอนเช้าพอดี นั่ง MRT เข้าเมืองกันได้เลย
ที่สำคัญก็คือ ราคาประหยัด เพราะเขามีโปรโมชั่นให้ได้จองอยู่เรื่อยๆ

นอกจากนี้ Thai AirAsia และ Thai AirAsia X ยังมีเส้นทางบินตรงไปเมืองต่างๆ ของประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่ง ฉงชิ่ง เทียนจิน ฉางซา และอื่นๆ อีกมากมายให้เพื่อนๆ ได้ไป Explore เมืองจีน ที่ไปเที่ยวเมื่อไร ก็ตื่นตาตื่นใจได้ทุกครั้ง  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.airasia.com

sh01

Waibaidu Bridge

หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมแล้ว จุดหมายแรกที่เราเลือกไปคือ Waibaidu Bridge ซึ่งเป็นจุดชมวิวหอไข่มุกอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพ ช่วงเวลาที่นิยมคือช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกยาวไปจนถึงช่วงกลางคืนที่หอไข่มุกเปิดไฟ แต่เราจำเป็นที่จะต้องมาจุดนี้ในช่วงเช้า ก็สวยงามไปอีกแบบ เสียดายที่วันนั้นฟ้าไม่เปิด บรรยากาศเลยดูอึมครึมไปหน่อย

การเดินทาง : MRT Tianting Road Exit 3 เดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร

LM105281

บรรยากาศรอบๆ Waibaidu Bridge ก่อนพระอาทิตย์ตก

LM105306

% Arabica Shanghai Roastery

ร้านกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นที่เราชอบมากๆ อีกร้านหนึ่ง ในเซี่ยงไฮ้มีหลายสาขา แต่เราเลือกมาที่สาขานี้เนื่องจากเป็นสาขาใหญ่และเป็นโรงคั่ว ตั้งอยู่ชั้นล่างของตึก Rockbund Art Museum เป็นอีกสาขาที่ตกแต่งแบบ Minimal แต่มี Space ที่สวยงามลงตัวดี ใกล้ๆ กันมีร้าน  Horiguchi Coffee กาแฟสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาในต่างประเทศน้อยมากๆ อีกหนึ่งร้าน สามารถแวะไปชิมกันได้ (แต่เตือนไว้ก่อนว่าราคาค่อนข้างสูงพอสมควรนะ)

การเดินทาง : MRT East Nanjing Road (Exit 6) หรือเดินต่อมาจาก Waibaidu Bridge ได้ (ระยะทางประมาณ 300 เมตร)

LM104520

Interior ของร้านยังคงเอกลักษณ์ด้วยการใช้สีไม้โอ็คและสีขาวเป็นหลัก

LM104523

sh02

บรรยากาศด้านนอกร้านในช่วงกลางวัน

LM104585

The Bund

Landmark ที่ไม่แวะมาก็คงเหมือนมาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้ ครั้งก่อนเราไปเที่ยว The Bund ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งไม่ประทับใจอย่างแรงเพราะคนเยอะมากๆ ขนาดปิดถนนให้เดินก็ยังคนแน่นจนรู้สึกไม่โอเคสุดๆ ครั้งนี้เราแวะมาแถวนี้พอดีในช่วงกลางวัน(วันธรรมดา) แล้วเพื่อนที่มาด้วยก็เพิ่งมาเซี่ยงไฮ้ครั้งแรก จึงถือโอกาสพามาเช็คอินที่นี่ซะหน่อย บรรยากาศในช่วงสายๆ จนถึงกลางวันแบบนี้เราว่าดีเลยนะ คนไม่จอแจมาก เดินเล่นถ่ายรูปได้เพลินๆ หรือจะมาอีกช่วงหนึ่งก็คือตอนมืดไปเลย คนอาจจะเยอะกว่านี้หน่อยแต่ไม่แย่เท่าช่วงเย็นแน่นอน และถ้าหลีกเลี่ยงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ ก็จะชิลขึ้นเยอะเลยแหละ

การเดินทาง : MRT East Nanjing Road (Exit 7)

sh03

วิวหอไข่มุกบริเวณ The Bund ในช่วงกลางวันและยามค่ำคืน สวยงามไปคนละแบบ

LM104560

วิวริมแม่น้ำตรง The Bund เห็นตึกเรียงรายที่ฝั่งตรงข้ามเป็น Landmark ให้ถ่ายรูป
จุดนี้ใช้เลนส์มุมกว้าง หรือ ultrawide ในมือถือถ่ายก็จะเก็บภาพมุมสวยๆ แบบนี้ได้

sh04

บรรยากาศ The Bund ในยามค่ำคืน

sh05

Small company coffee

เห็นรูปคาเฟ่นี้ใน Instagram ครั้งแรก ก็ตั้งใจเลยว่าต้องแวะมา แม้ว่าร้านจะเล็กไปหน่อย แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้ตั้งแต่หน้าร้าน
แถมในย่านนี้ใครที่ชอบร้านอาหารเก๋ๆ,  Select shop และสาวก FREITAG คงฟินมากเพราะมีช็อปให้ได้แวะช็อปอยู่ไม่ไกลจากคาเฟ่ด้วย

การเดินทาง : Jing’an temple (Exit 8) เดินต่อมาประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ชั้นล่างของตึก Yidian Julu Business Park ใกล้ๆ กันจะเป็นโซนที่รวมร้านอาหารและบาร์ให้นั่งชิลได้ ด้านหลังตึกมีร้าน Freitag

LM104629

บรรยากาศภายในร้าน แนะนำให้มาแต่เช้าเพราะคนจะได้ไม่เยอะ (ร้านเล็กสมชื่อเลยจ้า)

LM104652

Himalayas Center

ขอยกให้ที่นี่เป็น A Must ของคนที่รักการชมงาน Architect เท่ๆ และสายถ่ายรูป เพราะตึกนี้แค่ดีไซน์ก็ชนะขาดแล้ว นอกจากนี้ด้านในของตึกยังมี Museum ซึ่งช่วงที่เราไปมีงานหนึ่งที่น่าสนใจจัดขึ้นพอดี เดี๋ยวจะพาแวะไปชมกันคร่าวๆ แต่ถ้าหากใครสนใจจะมาที่นี่แนะนำว่าให้ลองเช็คกับ website ก่อนว่ามีงานที่น่าสนใจจัดแสดงด้วยหรือเปล่า เพราะจะได้มาเที่ยวคุ้มค่าหน่อย (เพราะแอบไกลจากตัวเมืองอยู่เหมือนกันนะ)

การเดินทาง : MRT Huamu Road (Exit 3)

sh07

มุมถ่ายรูปที่มาถึงแล้วต้องถ่าย ถ้าหาไม่เจอเอารูปให้ยามดูได้เพราะมันต้องเดินขึ้นตึกมาสัก 2-3 ชั้น หายากนิดนึง

LM104705

Exhibition ที่จัดใน Museum งานที่เราเลือกเข้าชมคือ “Expect the Unexpected” โชคดีมากที่มาทันงานวันสุดท้ายพอดี

LM104722

Exhibition นี้ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับงานของ Teamlab ของญี่ปุ่นนั่นแหละ
เป็น Digital Art ที่เล่นกับการใช้แสง สี เสียง และที่สำคัญคือถ่ายรูปออกมายังไงก็สวย

LM104843

ห้องนี้จะเป็นฉากหลังสีดำ แล้วมีดวงไฟฉายให้ความรู้สึกเหมือนดวงดาวหมุนวนอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

sh06

ห้องนี้เป็น Hi-light ของงาน เป็นจอ LCD ติดตั้งไว้รอบๆ ห้องและมีพื้นเป็นกระจกสะท้อนแสงสีที่ Random ฉายไปเรื่อยๆ

LM104975

S.ENGINE Coffee (West Nanjing)

คาเฟ่สัญชาติจีนที่ครั้งก่อนเราได้แวะไปอีกสาขาหนึ่งแถว South Huangpi Road แต่ที่เราเลือกมาสาขานี้เพราะ Interior สวยดี ด้านในที่เป็นวงกลมสีขาวเรียงๆ กันไปรอบๆ ร้านชั้น 2 และ Counter bar ที่อยู่ตรงกลางที่ชั้นล่างของร้าน แถมคุมโทนร้านด้วยสีขาว เขียว และชมพูพาสเทล ส่วนเมนูกาแฟและชาของสาขานี้ก็มีเหมือนสาขาอื่นๆ ราคาค่อนข้างสูงหน่อยแต่รสชาติอร่อยดี

การเดินทาง : MRT West Nanjing station (Exit 3)

sh08

LM105044

Yu Garden

อีกหนึ่ง Landmark ของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ได้บรรยากาศ Traditional Chinese แบบเต็มๆ หากใครกลัวเพื่อนไม่รู้ว่ามาเที่ยวประเทศจีน แนะนำให้มาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ เพราะเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องแบบจีนเต็มไปหมด ไล่ตั้งแต่โซนด้านหน้าที่เป็นร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ไล่มาจนถึงศาลากลางน้ำด้านหน้าทางเข้าสวน ซึ่งครั้งก่อนเราได้เข้าไปในสวนแล้ว คราวนี้เลยเดินเล่นเฉพาะด้านนอกพอ

โชคดีที่โรงแรมที่พักของเราสามารถเดินมาที่นี่ได้ เราจึงถือโอกาสเดินมาตั้งแต่เช้า เพราะจะได้หลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวที่มักจะมากันอย่างเนืองแน่นในช่วงสาย ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ยามเช้าของที่นี่ มี Space ให้ได้เดิน และหยุดพักชมความสวยงามรอบตัวได้

การเดินทาง : MRT Yuyuan Garden (Exit 1)

LM105062

ศาลากลางน้ำด้านหน้า Yu Garden ภายในเป็นร้านชา
แนะนำให้สั่งชาแล้วขึ้นไปนั่งชมวิวที่ชั้น 2 บรรยากาศดีมาก

LM105069

บรรยากาศในย่านการค้าหน้า Yu Garden ช่วงเช้า

LM105086

Nanxiang Steamed Bun ร้านเสี่ยวหลงเปาที่เขาบอกกันว่ามา Yuyuan Garden ต้องแวะ
ช่วงเช้าๆ แบบนี้ไม่มีคิว เลยได้ลองซื้อมาชิมกับเขาบ้าง อร่อยสมคำร่ำลือ

sh11

METAL HANDS

ขอยกให้คาเฟ่นี้เป็นคาเฟ่ที่เราชอบที่สุดในทริปนี้แล้วกัน เพราะมีความลงตัวทุกอย่างทั้งดีไซน์ของร้าน บรรยากาศ และที่สำคัญคือรสชาติของกาแฟ โดยเฉพาะ Dirty ของร้านนี้ที่เราว่ามันดีมากกก ต้องบอกว่าเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองคาเฟ่อีกเมืองที่มีความน่าสนใจไม่แพ้โตเกียวและโซลเลยแหละ สาย Cafehopping ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศลองมา hop ที่เซี่ยงไฮ้ดู รับรองไม่ผิดหวัง

การเดินทาง : MRT Middle Huahai Road (Exit 1)

sh10

บรรยากาศภายในร้าน

LM105144

LM105185

China Art Museum

ตึกสีแดงสไตล์จีนที่เราเห็นครั้งแรกใน Instagram ก็รู้สึกสะดุดตามาก ใครที่ชอบถ่ายภาพ ชม Architect อลังการณ์ควรแวะมาเช็คอินอย่างยิ่ง เสียดายที่เราไปในวันที่ Museum ปิดพอดีเลยได้แต่หามุมถ่ายภาพเล่นที่ด้านนอกของอาคาร แนะนำว่าถ้าอยากเก็บภาพตึกให้ครบๆ ควรพกเลนส์ Ultrawide มาด้วยนะ

การเดินทาง : MRT China Art Museum (Exit 3)

LM105269

ใช้เลนส์ Ultrawide ก็จะได้มุมประมาณนี้

LM105276

ฝั่งตรงข้ามกับ Museum จะมีห้างเล็กๆ อยู่ บนชั้นดาดฟ้าของห้างก็มีมุมสวยๆ ให้ได้เก็บภาพด้วย

LM105411

LM105352

Zhujiajiao

ถ้าจะให้นิยาม Zhujiajiao ก็คงจะเป็นตลาดน้ำแบบ Traditional Chinese ที่มีขนาดใหญ่ และมีร้านค้าร้านอาหารหลากหลายให้ได้เดินช็อปกันเพลินๆ ส่วนสายถ่ายภาพ ที่นี่ก็เป็น Location ที่มีมุมสวยๆ หลายมุมให้ได้แวะ และหากใครมีเวลาจะเช่าเรือนั่งชมตลาดก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ที่นี่จะอยู่ห่างจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ถือว่าเดินทางสะดวกสบายเมื่อเทียบกับตลาดน้ำที่อื่นๆ เพราะมีรถไฟ MRT ไปถึง ข้อเสียอย่างก็คือที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะถ้าเป็นวันหยุด ดังนั้นควรเลี่ยงมาเที่ยววันธรรมดา และออกมาเที่ยวตั้งแต่เช้าจะชิลกว่ามากๆ

การเดินทาง : MRT Zhujiajiao (Exit 1) ต่อรถบัสสาย 1510 หรือสามล้อ คันละ 20 หยวน นั่งได้ 2 คนต่อคัน หรือถ้าถึกทนแบบเรา จะเดินไปก็ได้ชิลๆ ประมาณ 20 นาทีก็ถึง

LM105344

บนรถไฟสายที่ไป Zhujiajiao คนไม่มากนักในวันธรรมดา แสงและสีบนรถไฟก็ดูพาสเทลน่ารักดี

LM105348

ถนนบริเวณปากทางเข้าตลาด มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย

LM105353
LM105376

บรรยากาศภายในตลาด บริเวณริมคลอง

LM105381

LM105358

บรรยากาศทางเดินภายในตลาด

sh12

LM105409

พอช่วงสายๆ คนก็จะเร่ิมพลุกพล่านมากขึ้น นี่ขนาดวันธรรมดานะ

LM105432

Lujiazui

โซนนี้คือฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับ The Bund บรรยากาศโดยรอบจะเป็นตึกสูงดูทันสมัย มีออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า และตึกสูงหลายๆ ตึกที่ติดอันดับโลก รวมถึงหอไข่มุกที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเซี่ยงไฮ้

การเดินทาง : MRT Lujiazui

LM105530

Lujiazui ในยามค่ำคืน

LM105443

Shanghai Tower

ตึกสูงอันดับสองของโลกซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายก่อนปิดทริปครั้งนี้ของเรา ด้วยความที่ครั้งก่อนเวลาไม่เอื้ออำนวย ทำให้ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวเซี่ยงไฮ้จากมุมสูง ทริปนี้จึงตั้งใจว่าจะต้องขึ้นมาชมวิวบนตึกนี้ให้ได้ โดยตึก Shanghai Tower นี้อยู่แถว Lujiazui ซึ่งเป็นย่านที่มีตึกสูงๆ มากมายอย่างที่ได้กล่าวไว้ แต่ความพิเศษของที่นี่ที่เราต้องขึ้นมาชม ก็เพราะตึกนี้สูงที่สุดในย่านนี้แล้วแหละ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ตั้งใจจะมาชมวิวบน Observation Deck ของ Shanghai Tower ถ้าไม่อยากต่อคิวซื้อตั๋วก็สามารถซื้อล่วงหน้าได้จาก Klook Application ราคาถูกกว่าซื้อที่นี่ และไม่ต้องมารอนาน แต่เนื่องจากแพลนของเรายังไม่แน่นอน เพราะการมาขึ้นตึกนี้ก็ต้องดูฟ้าฝนด้วย เลยคิดว่ามาซื้อที่หน้างานเอาแล้วกัน ซึ่งก็โชคดีที่คิวไม่ยาวมากอย่างที่คิด

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาชมวิวที่นี่คือช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก และอยู่ต่อจนถึงตอนค่ำที่ตึกต่างๆ เริ่มเปิดไฟ ก็จะได้บรรยากาศทั้งสองแบบ

การเดินทาง : MRT Lujiazui (Exit 6)

LM105458

LM105451

บรรยากาศบน Observation Deck

sh13

มุมนี้มองเห็นหอไข่มุกและฝั่ง The Bund

LM105450

LM105454

มุมสูงของเมืองเซี่ยงไฮ้ น่าเสียดายที่ว่าไม่เปิดและมีหมอกบังทัศนียภาพพอสมควร

LM105507

ปิดท้ายกันด้วยวิวยามค่ำคืนจาก Shanghai Tower

และนี่ก็คือสถานที่ที่เราได้ไปมาในทริปเซี่ยงไฮ้ครั้งที่ 2 ของเรา มารอบนี้เราก็ยังตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจไปกับเซี่ยงไฮ้เหมือนเดิม แม้จะผ่านไปปีเดียวจากครั้งก่อน แต่เซี่ยงไฮ้ก็ยังคงมีอะไรใหม่ๆ ให้เราไปแวะชม แวะเที่ยวได้เสมอ หลังจากเรากลับมาไม่นานนักก็เพิ่งจะมี Teamlab เปิดใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ถาวรเหมือนกับ Teamlab Borderless ที่โตเกียวเลยแหละ ซึ่งเราก็ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาส ก็คงจะต้องกลับมาเซี่ยงไฮ้อีกแน่นอน และที่สำคัญก็คือ เราอยากให้เพื่อนๆ ได้ไปลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเกาหลี ญี่ปุ่น มาเท่ียวเซี่ยงไฮ้ดูบ้าง

หวังว่าอ่านรีวิวนี้จบ จะได้ไอเดียไปชักชวนเพื่อนฝูง แล้วจองตั๋วไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้กันนะครับ