Phra Singh Village : ที่พักสวยสไตล์ล้านนา ใจกลางเมืองเชียงใหม่
เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแบบนี้ เพื่อนๆ หลายคนคงมีแผนที่จะขึ้นเหนือไปท่องเที่ยวสัมผัสลมหนาวกัน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน และหากใครกำลังมองหาที่พักใจกลางเมืองเชียงใหม่ เราขอแนะนำ Boutique Hotel ที่โดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ และทำเลดีสุดๆ อย่าง “Phra Singh Village”
Phra Singh Village ตั้งอยู่ในซอยราชมรรคา 8 ใกล้กับวัดพระสิงห์ และอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดินท่าแพ (เดินจากโรงแรมไปประมาณ 5 นาที) การออกแบบโรงแรมได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของอาณาจักรล้านนาและล้านช้าง ผสมผสานออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว ใครชอบถ่ายรูปรับรองว่ามีมุมสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปแน่นอน ภายในโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 43 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 Room type
ห้องสำหรับพัก 2 คน
- Superior Twin Bed (34 ตร.ม.) ห้องเตียงเดี่ยว 2 เตียง ไม่มีระเบียง
- Deluxe with Balcony (46 ตร.ม.) ห้องเตียงใหญ่ 1 เตียง มีระเบียง (เป็นห้องที่เรามาพักในครั้งนี้)
และห้องสำหรับพัก 4 คน
- Grand Family Superior (42 ตร.ม.) ห้องครอบครัว มีเตียงใหญ่ 2 เตียง ไม่มีระเบียง
- Grand Family Suite (64 ตร.ม.) ห้องครอบครัว มีเตียงใหญ่ 2 เตียง มีระเบียงและอ่างจากุชชี่
ความพิเศษของห้องพักที่นี่ คือ ทุกห้องมีเครื่องทำกาแฟแคปซูล และฟรี Minibar อีกด้วย
นอกจากห้องพักที่สวยงามและกว้างขวางแล้ว ทางโรงแรมยังมี Facilities อีกหลายอย่าง และที่สำคัญ คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น
- รถรับ-ส่งสนามบิน (ให้บริการฟรี เฉพาะลูกค้าที่จองห้องพักผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน)
- นวดฟรี 15 นาที (นวดหัว บ่า ไหล่) ตั้งแต่ 12.30 – 17.30 น. บริเวณ Lobby ของโรงแรม
- Afternoon tea ตั้งแต่เวลา 14.00 – 15.30 น. มีชา น้ำผลไม้ รวมถึงขนมต่างๆ ให้ทานได้ไม่อั้น
- Fitness และสระว่ายน้ำ
- จักรยาน ปั่นฟรีไม่จำกัดเวลา
- มีผ้าถุง สำหรับสาวๆ ไว้ใส่ถ่ายรูป หรือจะใส่ไปไหว้พระที่วัดก็ได้
ความดีงามอีกอย่างของที่นี่ คือ Makkha Health & Spa ซึ่งมีถึง 2 สาขาตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรม โดยมีสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกันไป Treatment ของ Spa มีหลายแบบให้เลือก ทั้งนวดไทย นวดน้ำมันอโรม่า นวดลูกประคบ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ทาง Spa เลือกใช้ คือ แบรนด์ “WAN WAAN” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทางโรงแรมผลิตเอง หากใครยังไม่จุใจกับนวดฟรีที่โรงแรมจัดให้ เดินแวะมาเลือก Treatment ที่ Spa กันได้เลย ค่าบริการเริ่มต้นที่ 500 บาท/ชั่วโมง และสามารถใช้ E-Voucher จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นส่วนลดได้อีก 40%
หากใครสนใจมาเข้าพักที่ Phra Singh Village ช่วงนี้ทางโรงแรมมีโปรโมชั่นพิเศษ หากเข้าพักในวันจันทร์ – พฤหัสบดี เริ่มต้นที่ 2,900 บาท/คืน (หักส่วนลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เหลือเพียง 1,740 บาท/คืน) และ วันศุกร์ – อาทิตย์ (รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์) เริ่มต้นที่ 3,400 บาท/คืน (หักส่วนลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เหลือเพียง 2,040 บาท/คืน) บอกเลยว่าราคาดีแบบนี้ไม่ได้มีกันบ่อยๆ ลองมาสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่นี่สักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ทาง
หรือโทร 097-920-9006
E-mail : info@phrasinghvillage.com
บริเวณด้านหน้าโรงแรม สวยงามตั้งแต่หน้าประตูเลยทีเดียว
บรรยากาศบริเวณ Lobby ของโรงแรม มีพนักงานคอยดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี
ทางโรงแรมต้อนรับเราด้วยน้ำอัญชันมะนาว ดื่มแล้วสดชื่น
มาถึงแล้วก็เริ่มใช้ Complimentary ของทางโรงแรมเลยครับ กับการนวดคอ บ่า ไหล่ ฟรี 15 นาที
สามารถมาใช้บริการได้จนถึง 17.30 น. มีพี่ๆ พนักงานคอยให้บริการอยู่ตรง Lobby
Check – in เรียบร้อยแล้ว จะพามาชมห้องพักของเรากันครับ ห้องที่เราพักเป็นห้อง Deluxe with Balcony ซึ่งข้อดีของห้องนี้ คือ มีระเบียงให้นั่งเล่นด้านนอกได้ด้วย และมีพื้นที่กว้างถึง 46 ตร.ม. เปิดประตูเข้าห้องมาก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้
ห้อง Type นี้จะได้เตียงขนาด King size เตียงและหมอนนุ่ม ดูดวิญญาณมาก
บริเวณด้านซ้ายของห้องจะเป็น Walk – in Closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ
ห้องน้ำกว้างขวาง และมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ส่วน Amenities จะใช้แบรนด์ “WAN WAAN” ซึ่งทางโรงแรมผลิตเอง และใช้กลิ่น Jasmine ซึ่งเป็นกลิ่น Signature ของแบรนด์มาให้แขกที่เข้าพักได้ใช้
บรรยากาศบริเวณระเบียงห้อง ไว้นั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือชิลๆ
ทุกห้องพักของที่นี่จะมีเครื่องทำกาแฟ และแคปซูลกาแฟมาให้ด้วย
Minibar ที่โรงแรมจัดให้ ทานได้ทุกอย่าง ฟรี!
อีกมุมที่เราชอบมาก คือ มุม Sofa bed ซึ่งอยู่ใกล้กับเตียงนอน
เผื่อใครกลัวนั่งตรงระเบียงแล้วจะร้อน มานอนเล่นที่ Sofa bed ด้านในห้องได้
เราจะพาไปชมห้องพักอีก 2 แบบของทางโรงแรมกันครับ เริ่มกันที่ห้อง Superior Twin Bed ซึ่งเป็นห้องเริ่มต้นของทางโรงแรม ห้องนี้จะมีขนาด 34 ตร.ม. และไม่มีระเบียงเหมือนห้อง Deluxe และจะมีเฉพาะเตียงคู่เท่านั้น
มีโต๊ะนั่งทานข้าว และมีเครื่องทำกาแฟเหมือนห้อง Deluxe ที่เราพักเลย
อีกอย่างหนึ่งที่เราชอบก็คือทีวี เพราะที่นี่ใช้ Smart TV สามารถดู Netflix หรือ Youtube ได้สบายๆ
อีกห้องที่เราจะพามาชม คือ ห้อง Grand Family Suite ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโรงแรม และสามารถเข้าพักได้ 4 คน จุดเด่นของห้องนี้นอกจากขนาดที่กว้างถึง 64 ตร.ม. แล้ว แต่ยังมีวิวดอยสุเทพที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงห้อง
นั่งเล่นตรงระเบียง ชมวิวดอยสุเทพได้ด้วย
มี Walk – in Closet อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำกว้างขวาง และมีความพิเศษตรงที่มีอ่างจากุชชี่ให้แช่ด้วย
ชมห้องพักแบบต่างๆ เสร็จแล้ว เราจะพามาชม Facility อื่นๆ ของทางโรงแรมกันบ้างครับ
เริ่มที่ห้อง Fitness มีอุปกรณ์หลากหลายแบบให้ได้ใช้
สระว่ายน้ำสีดำ ตัดกับร่มสีแดง เป็นมุมที่แขกทุกคนต้องแวะมาถ่ายรูป
Lan Chang Restaurant ห้องอาหารหลักของทางโรงแรม ที่เราจะมาทานอาหารเช้า และ Afternoon tea
14.00 -15.30 น. เป็นช่วงเวลา Afternoon tea แวะมาดื่มชา ทานเค้กกันได้ไม่อั้นครับ
มีทั้งชาร้อน น้ำผลไม้ น้ำดื่ม และของว่างทั้งคาวหวานให้เลือกทานหลายเมนู
ขนมต่างๆ มีพนักงานคอยเติมให้ตลอด มาพักที่นี่ไม่ต้องออกไปคาเฟ่ที่ไหนก็ได้ เพราะขนมอร่อยมาก
ใครอยากได้รูปกับเซ็ทขนมสวยๆ อาจจะต้องใช้ความสามารถในการจัดจานกันหน่อย
แต่เราไม่มีความสามารถ เลยต้องรบกวนพนักงานให้ช่วยจัดให้
ในส่วนของ Breakfast ก็มาทานที่ห้องอาหาร Lan Chang Restaurant เช่นเดียวกัน โดยทางโรงแรมจะจัดเป็น Buffet เน้นไปที่อาหารไทย ส่วนชา กาแฟ น้ำผลไม้และ Bakery ต่างๆ ก็มีให้ครบเหมือนโรงแรมใหญ่ๆ เลย น่าเสียดายวันที่เราไปพักแขกของโรงแรมเยอะมาก เลยไม่สามารถถ่ายรูปบรรยากาศของห้องอาหารด้านใน และไลน์ Buffet มาให้ชมกันได้
อิ่มท้องแล้ว ได้เวลามานวดผ่อนคลายกันที่ Makkha Health & Spa กันครับ โดยจะมี Spa ถึง 2 สาขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรม เราจะพามาชมกันที่สาขาแรกก่อน Makkha Health & Spa Colonial Gardens สาขานี้การออกแบบจะเป็นสไตล์ Colonial มีจุดเด่นคือสระน้ำใหญ่ตรงกลาง Spa เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปสวยมาก
เข้ามาด้านในจะเจอ Lobby ของ Spa มองเห็นสระน้ำด้านหลัง
มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทาง Spa ให้ได้ทดลอง และซื้อกลับไปใช้ที่บ้านได้
ก่อนเริ่ม Treatment พนักงานจะนำ Tester มาให้เราเลือก ว่าเราอยากใช้กลิ่นน้ำมันแบบไหน
โดยกลิ่น Signature คือกลิ่น Jasmine
สระน้ำตรงกลาง Spa ใช้ว่ายน้ำเล่นไม่ได้ แต่ถ่ายรูปสวยสุด
บรรยากาศภายในห้อง Treatment ด้านในมี Shower Box สำหรับ 2 คน
มาชมอีกสาขาของ Makkha Health & Spa กันครับ สาขานี้ คือ Makkha Health & Spa (Ancient House) เป็นเรือนไม้เก่าๆ ให้บรรยากาศไทยๆ สไตล์นี้นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะชอบกัน
บริเวณด้านข้างมีบ่อน้ำ เลี้ยงปลาคาร์ฟและจัดสวนดูร่มรื่นสบายตา
การตกแต่งด้านในก็สวยงามไม่แพ้กัน มีหลายมุมน่าถ่ายรูปเชียวแหละ
บรรยากาศและการตกแต่งภายใน Spa
เดินชมสถานที่เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลานวดของเราแล้ว เราเลือกนวดน้ำมันอโรม่าไป 1 ชั่วโมง ก่อนนวดพนักงานจะมีแบบสอบถามให้กรอก ว่าเราต้องการนวดบริเวณส่วนไหนเป็นพิเศษ เลือกความหนักเบาในการนวดได้ เพื่อให้เหมาะสมกับความชอบของแต่ละคน บอกเลยว่าหลังจากนวดเสร็จ เบาตัวขึ้นเยอะเลย ที่สำคัญราคา Treatment ของที่นี่ไม่แพง และสามารถใช้ E-Voucher จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาเป็นส่วนลดได้ด้วย
นวดเสร็จแล้ว พนักงานจะเตรียมชาร้อนกับข้าวแต๋นให้ทานปิดท้าย
และนี่ก็เป็นประสบการณ์ทั้งหมดที่เราได้ไปเข้าพักที่ Phra Singh Village โดยส่วนตัวแล้วเราประทับใจกับการดีไซน์ และการจัดสรรพื้นที่ภายในโรงแรม ที่แม้จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก แต่สามารถทำให้ Space ทุกจุดภายในโรงแรมได้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ห้องพักที่กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และมีกลิ่นหอมจาก Diffuser ที่ทางโรงแรมใส่ไว้ในห้องพักทุกห้อง Facility ต่างๆ ที่ยังไม่เคยเจอโรงแรมไหนจะให้มากเท่านี้ และที่สำคัญคือการบริการของพนักงานทุกคน ที่ให้บริการเป็นอย่างดีตั้งแต่เราก้าวเข้ามาในโรงแรม เราหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่พักดีๆ ในเชียงใหม่ และฝาก Phra Singh Village ไว้ให้มาลองพักกันดูสักครั้ง รับรองว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจ กลับไปแน่นอนครับ