Rosewood Bangkok : Rosewood Getaway
หากจะพูดถึงโรงแรมระดับ Ultra Luxury ในกรุงเทพฯ ที่มีการออกแบบภายในห้องพักได้สวยงาม เราขอยกให้ Rosewood Bangkok เป็นอันดับ 1 ในใจตอนนี้เลย เพราะครั้งแรกที่เราได้เห็นรูปภาพห้องพักของที่นี่ เราก็ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะไปลองพักดูสักครั้ง และด้วยโปรโมชั่น Rosewood Getaway ทำให้เราได้ไป Staycation ที่ Rosewood Bangkok ในราคา 3,900 บาทเท่านั้น (หักส่วนลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว) ซึ่งราคานี้ประกอบไปด้วยห้องพักแบบ Deluxe รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน + Early check-in ได้ตั้งแต่ 9.00 น. และ Late check-out ได้ถึง 18.00 น. + Set Dinner สำหรับ 2 ท่าน บอกเลยว่าราคานี้คุ้มค่ามากๆ เพราะปกติแล้วราคาห้องพักที่นี่อย่างเดียวก็เกือบจะหลักหมื่นแล้วด้วยซ้ำ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันต่อในรีวิวนี้ได้เลยครับ
Location
Rosewood Bangkok ตั้งอยู่ติดกับ BTS เพลินจิต ตรงข้ามกับอาคาร Mahatun Plaza และติดกับคอนโด Noble เพลินจิต ซึ่ง Location นี้เป็น Prime area ของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ มีโรงแรมชื่อดังมากมายที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น Park Hyatt ที่ตั้งอยู่ที่เดียวกับห้าง Central Embassy, The Okura Prestige โรงแรมหรูสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเราได้เคยรีวิวไว้แล้ว (สามารถตามไปอ่านรีวิวได้ที่ http://www.porsuke.com/2020/12/14/okuraprestige_bkk/ ) การเดินทางสะดวกสบายมาก ถ้าหากนำรถส่วนตัวมาทางโรงแรมก็มีที่จอดรถบริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมให้บริการด้วย
หากเดินทางด้วย BTS ลงสถานีเพลินจิต มีทางเชื่อมจาก BTS เข้าไปที่ชั้น 3 ของโรงแรมได้เลย
ขึ้นลิฟท์มา Check-in กันที่ Lobby ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 7 ของโรงแรม
บรรยากาศบริเวณ Lobby พื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก พนักงานต้อนรับและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
จาก Lobby เดินเข้ามาด้านในสุดจะเจอลิฟท์สำหรับแขกที่มาเข้าพักครับ โดยลิฟท์ด้านหลังนี้จะสามารถไปส่วนกลางที่ชั้น 9 และห้องอาหาร Nan Bei ที่ชั้น 19 ได้ โดยห้องพักของเราจะอยู่ที่ชั้น 27 ครับ
ออกจากลิฟท์มาจะเจอของประดับตกแต่งอยู่ตามชั้น
โถงทางเดินไปยังห้องพัก
Room
ห้องพักของเราเป็นห้อง Deluxe ซึ่งเป็นห้องระดับเริ่มต้นของทางโรงแรมครับ โปรโมชั่นเริ่มต้น (วันที่เราเข้าพัก คือ 3 มกราคม 2564) ราคา 6,500 บาท (หักส่วนลดเราเที่ยวด้วยกัน เหลือ 3,900 บาท) ตอนจะมาเข้าพัก Request ห้องที่อยู่ชั้นสูง และขอห้องที่วิวสวยๆ ไว้ครับ ซึ่งทางโรงแรมจัดห้องฝั่งที่ติดกับคอนโด Noble เพลินจิตไว้ ซึ่งข้อดีก็คือ วิวฝั่งนี้มองเห็นตึกฝั่งถนนวิทยุและสุขุมวิท แสงเข้าช่วงบ่ายๆ เย็นๆ สวยมาก แต่ข้อเสียก็คือ ห้องถูก Block วิวบางส่วนจากคอนโด และอาจจะดูไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไรเพราะอยู่ค่อนข้างชิดกับคอนโดเลย
การตกแต่งภายในห้องพัก อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าที่นี่ออกแบบได้ดีมาก การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และสีสันต่างๆ ดูสวยงามลงตัว และดูหรูหรา ส่วนที่สวยที่สุดยกให้ห้องน้ำ โดยเฉพาะอ่างอาบน้ำสีขาวตัดขอบทองที่เป็นเอกลักษณ์ของ Rosewood การจัดสรรพื้นที่ภายในห้องน้ำ แม้จะไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่อึดอัด และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นห้องพักระดับเริ่มต้นที่สวยมากๆ
เข้ามาในห้องพัก จะมีพื้นที่วางโซฟาเล็กๆ สำหรับนั่งใส่รองเท้า มีกระจกเงาบานใหญ่ และรูปตกแต่งอยู่ที่ผนัง
บริเวณ Living area มีโต๊ะหินอ่อนและเก้าอี้ พร้อม Welcome Fruit
บริเวณ Living area ถ่ายจากอีกมุมหนึ่งครับ
ด้านซ้ายถัดจาก Living area เป็น Walk-in closet มี Bathrobe 2 ไซส์แขวนให้เลือกใช้
และมีช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ในชั้นตามรูป
มีเครื่องทำกาแฟและแคปซูล รวมอยู่ใน Minibar (ส่วนนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ถัดจาก Living area จะมี Partion กั้นกับส่วนของเตียงนอน บริเวณหัวเตียงมีแผงควบคุมไฟทั้งสองฝั่ง
มีลำโพง Bluetooth และกล้องสำหรับเก็บของกระจุกกระจิก
บริเวณหัวเตียงมีโคมไฟประดับ มีโทรศัพท์และแผงควบคุมไฟในห้อง
Keycard ออกแบบสวยมาก สะท้อนความเป็นไทยได้ดี
ถัดมาที่ส่วนสุดท้าย คือ ห้องน้ำ ซึ่งเป็นส่วนที่เราชอบมากที่สุด เพราะออกแบบได้สวยงามมาก
แช่น้ำไปก็มองเห็น City view ฝั่งถนนวิทยุและราชประสงค์ไปด้วย
วิวจากห้องน้ำ มองเห็นตึก Park Venture, Central Embassy และ BTS ยาวไปถึงราชประสงค์
แสงยามบ่ายส่องเข้ามาในห้อง สวยมากๆ
ไดร์เป่าผมใช้ของยี่ห้อ Dyson ส่วน Amenities ต่างๆ เป็นแบรนด์ของ Rosewood
ห้อง Shower และห้องสุขาแยกออกจากกัน ภายในห้อง Shower มีที่นั่ง รวมถึง Rain Shower น้ำแรงดีมาก
เราชอบดีไซน์ขวดน้ำดื่มของโรงแรม สวยดูดี
Facility
สระว่ายน้ำและฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 9 ของโรงแรม เป็นสระว่ายน้ำ Indoor ขนาดใหญ่ และมีสระจากุชชี่อยู่บริเวณริมสุดของตึก มองเห็นวิวตึก Mahatun Plaza ช่วงที่เราไปเปิดให้ใช้บริการสระว่ายน้ำเป็นรอบ รอบละ 1 ชั่วโมง (ต้องจองก่อน) เพื่อจำกัดจำนวนคนที่มาใช้บริการ ส่วนของฟิตเนสปิดให้บริการเพราะเป็นช่วงที่ Covid กลับมาระบาดรอบใหม่ สระว่ายน้ำที่นี่ลึก 1.2 เมตร และยาวพอสำหรับการว่ายออกกำลังกายได้เลย
ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ แสงดีมาก ด้านหลังคือส่วนของฟิตเนสที่ปิดให้บริการอยู่
มีส่วน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ ซ่อนอยู่ด้านในหลัง Day bed
อ่างจากุชชี่อยู่ด้านริมสุดของตึก แช่ไปชมวิวไปได้ด้วย
วิวจากสระว่ายน้ำสวยมากไม่แพ้วิวจากห้องพักเลย มาถ่ายรูป BTS วิ่งสวนกันได้แบบใกล้ๆ เลยแหละ
บริเวณด้านหน้าห้องอาหาร Nan Bei
Dinner Set at Nan Bei
ร้านอาหารจีนชื่อดังของ Rosewood Bangkok ที่หลายๆ คนรับประกันว่ารสชาติอาหารจีนของที่นี่อร่อย และเป็นโอกาสดีมากที่การมาพักที่ Rosewood ของเราในครั้งนี้รวม Dinner Set ที่ห้องอาหาร Nan Bei มาให้ด้วย (แนะนำให้โทรมาจองล่วงหน้าก่อน เพราะ Dinner Set จะมีให้เลือกที่ 2 ห้องอาหาร คือ Nan Bei และ Lakorn European Brasserie) โดยร้าน Nan Bei ตั้งอยู่ที่ชั้น 19 ของโรงแรม ตอนแรกเราเข้าใจว่า Dinner Set คงมีอาหารมาให้สัก 3-4 อย่างต่อ Set ที่ไหนได้ทางร้านจัดมาให้ 8 อย่าง รวมของหวานไปด้วย เหมือนมากินโต๊ะจีนย่อมๆ กันเลย ซึ่งแต่ละอย่างที่ให้มา Portion ใหญ่ จัดเต็ม คือถ้าเสียเงินมาทานเองรับรองว่ามื้อนี้อย่างน้อยๆ ราคาต้อง 2,000+++ แน่นอน เมนูที่เสิร์ฟ เริ่มที่ Appetizer ประกอบไปด้วย Cucumber Salad, Pork Knuckle 5 spices และ Poached Chicken (อันนี้อร่อยมาก) ตามมาด้วยซุปมะเขือเทศใส่ไข่ “Ge Da Tang” และ Main course อีก 4 จาน ได้แก่ Kurobuta Pork Knuckle Black Truffle & Leek, กุ้งผัดไข่เค็ม, Wok Fried Rice และคะน้าผัดน้ำมัน ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Chilled Mango Sago บอกเลยว่ามื้อนี้ทั้งอร่อย และอิ่มจนจุกไปเลย เป็นร้านอาหารจีนอีกร้านที่เราอยากแนะนำให้ได้มาลองกันครับ
บรรยากาศโต๊ะที่เราจองไว้
ภาพรวมอาหารทั้งหมดของ Dinner Set
Appetizer : Pork Knuckle 5 spices
ซ้าย : Kurobuta Pork Knuckle Black Truffle & Leek
ขวา : Ge Da Tang
ซ้าย : กุ้งผัดไข่เค็ม ขวา : Chilled Mango Sago
อีกจุดหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของห้องอาหาร Nan Bei คือบริเวณ Outdoor ริมระเบียงของร้าน
มองเห็น The Okura Prestige และวิวกรุงเทพยามค่ำคืน
ถ่ายรูปสวยๆ ได้ตรงมุมระเบียง
Breakfast at Lakorn European Brasserie
มื้อเช้าของโรงแรมช่วงนี้เสิร์ฟเป็น a la carte มีอาหารจานหลักให้เลือกทั้งอาหารไทย เช่น ข้าวไข่เจียวหมูสับ ข้าวเหนียวหมูย่าง หรือจะ Inter หน่อยอย่าง Egg Benedict และเมนูไข่อื่นๆ เสิร์ฟพร้อมเบคอนหรือแฮมตามแต่จะเลือก ซึ่งเราสามารถเลือก Main dish ได้คนละ 2 จาน ส่วนพวกขนมปัง หรือเครื่องดื่มต่างๆ สามารถสั่งได้เรื่อยๆ โดยภาพรวมของอาหารเช้า เราว่าค่อนข้างธรรมดาและตัวเลือกน้อยไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ช่วงนี้ที่มีแขกเข้าพักน้อย และราคาของโรงแรมที่ปรับลงมา คงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้อาหารเช้าดูไม่ได้จัดหนักจัดเต็มอย่างที่ควรจะเป็นสักเท่าไร
ส่วนบรรยากาศในห้องอาหาร Lakorn ตกแต่งด้วยโทนสีขาว ครีม น้ำตาล เป็นหลัก ดูเรียบหรูเหมือนผู้หญิงหวานๆ เรียบร้อย ซึ่งห้องอาหารนี้จะใช้เสิร์ฟ Afternoon tea ด้วย (แต่เรายังไม่ได้ลอง)
บรรยากาศภายในห้องอาหาร Lakorn European Brasserie
ภาพรวมอาหารเช้าที่เราสั่งมาทาน
Rosewood Bangkok ในความคิดเห็นของเรา สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของโรงแรม คือ การออกแบบ และ Detail ต่างๆ โดยเฉพาะในห้องพัก ซึ่งแม้ว่าจะเป็นห้องพักระดับเริ่มต้น แต่ทางโรงแรมก็จัดสรรทุกอย่างมาให้อย่างจัดเต็ม และมีส่วนกลางของโรงแรม ทั้งสระว่ายน้ำและห้องอาหารต่างๆ ที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม หรูหรา สมราคาโรงแรมระดับ Ultra Luxury ใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้เราอยากไปลองสัมผัสบรรยากาศของ Rosewood สาขาอื่นๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศดูบ้าง สุดท้ายนี้เราจะมาสรุปส่วนที่เราชอบ และจุดที่อยากให้ทางโรงแรมปรับปรุง ดังต่อไปนี้
ข้อดี
- การออกแบบห้องพักของที่นี่ สวยงาม หรูหรา เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และสีสันต่างๆ ได้อย่างมีสไตล์ ไม่ได้หรูจนดูแก่ หรือดูรกรุงรังจนเกินไป และเป็นดีไซน์ที่รับรองว่าในอนาคตก็ยังดูไม่เชย
- การบริการของพนักงานในทุกส่วนดูใส่ใจกับแขกที่มาเข้าพักเป็นอย่างดี
- ทำเลใจกลางเมือง และความสะดวกสบายในการเดินทาง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากใช้ชีวิตใจกลางเมือง เดินช็อปปิ้งได้เพลินๆ ตั้งแต่เพลินจิตยาวไปจนถึงสยามได้เลย
- ห้องอาหาร Nan Bei เป็นห้องอาหารจีนที่นอกจากจะออกแบบได้สวยแล้ว รสชาติอาหารก็อร่อยมากๆ แนะนำว่าถึงจะยังไม่ได้มาพักที่นี่ แต่มาลองทานอาหารจีนที่ Nan Bei ดูสักครั้ง ก็น่าจะประทับใจได้ไม่ยาก
- ราคาห้องพักในช่วงนี้ จัดว่าคุ้มมากๆ โรงแรมลดแลกแจกแถมสุดๆ แนะนำให้ลองดูโปรโมชั่นทางเพจของโรงแรมได้โดยตรง เพราะโปรโมชั่นเปลี่ยนไปทุกเดือน ล่าสุด (ของเดือนกุมภาพันธ์) เหมือนจะมีโปรเริ่มที่ 3,900 บาทเหมือนที่เราไปพัก แต่ได้ทานอาหารเช้า 2 มื้อ + upgrade ห้องพักให้ด้วย ถ้าไม่ไปพักช่วงนี้ หมด Covid ไปแล้วก็ไม่รู้จะได้ราคาถูกแบบนี้อีกเมื่อไรนะ
ข้อเสีย
- วิวจากห้อง Deluxe ฝั่งคอนโด Noble จะโดนบังวิวไปเลยอย่างน้อยครึ่งนึง ตอนไปพักถ้าอยากได้วิวโล่งๆ อาจจะต้อง Request กับทางโรงแรมดู
- Line อาหารเช้าที่มีให้เลือกน้อยไปหน่อย และเมนูก็ดูไม่ค่อยสมกับเป็นโรงแรมระดับ Ultra Luxury สักเท่าไร
- ราคาอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างแพง (มาก) อย่าง Dinner Set ที่ทางโรงแรมแถมมาใน Package จะไม่รวมค่าเครื่องดื่ม ซึ่งเราสั่งเครื่องดื่มเป็นชาจีนเย็น (Refill) โดนชาร์จไปแก้วละ 200++ บาท ยังดีที่สามารถใช้ E-Voucher ที่ได้คืนจากเราเที่ยวด้วยกัน ทุ่นไปได้ส่วนหนึ่ง
- Amenities ที่ใช้ในห้องพักไม่ค่อยหอมเลย ปกติเราไปนอนโรงแรมถ้าเจอ Amenities ที่ใช้ดีๆ กลิ่นหอมๆ จะชอบขนกลับมาใช้ต่อที่บ้าน แต่ที่นี่รู้สึกเฉยๆ มาก ทั้งที่ Packaging ดูดีมากเลยนะ