Six Senses Yao Noi : Paradise on Earth
Six Senses Yao Noi
เคยมีสถานที่ใดสักแห่งหนึ่งไหมครับ ที่ได้เห็นภาพแล้ว ก็ได้แต่ฝันว่า สักวันหนึ่งอยากจะพาตัวเองไปอยู่ในภาพนั้นบ้าง
สำหรับเราแล้ว Six Senses Yao Noi คือสถานที่แห่งนั้นครับ และที่นี่ก็เป็นหนึ่งใน Bucket List ของนักท่องเที่ยวหลายทั่วโลกที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศการพักผ่อนที่รีสอร์ทในฝันแห่งนี้กันสักครั้ง และเราก็ได้มีโอกาสนั้นแล้ว จึงอยากจะนำประสบการณ์ 3 วัน 2 คืนอันแสนประทับใจ มาถ่ายทอดให้ได้อ่านและตามไปอิ่มเอมกับบรรยากาศของรีสอร์ทนี้ด้วยกันครับ
Six Senses Yao Noi รีสอร์ทหรูแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา การเดินทางจากกรุงเทพฯ ที่สะดวกที่สุดคือนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต จากนั้นสามารถเลือกเดินทางได้ 2 แบบ คือ
- ใช้บริการรับ-ส่ง ของรีสอร์ท โดยจะมีรถมารับถึงสนามบิน และต่อเรือ Speedboat ไปลงที่ท่าเรือของรีสอร์ท มีทั้งแบบส่วนตัวและแบบ Share กับคนอื่น ค่าบริการเริ่มที่ 1,600 บาท / คน / เที่ยว
- ใช้บริการรถแท็กซี่จากสนามบิน มาลงที่ท่าเทียบเรือบางโรง (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) และใช้บริการเรือสาธารณะจากท่าเทียบเรือบางโรง (สามารถเช็คเวลารอบเรือกับทางรีสอร์ทได้ก่อนเดินทาง) ค่าเรือ 200 บาท / คน / เที่ยว บริเวณท่าเรือมีร้านขายของและห้องน้ำให้บริการ จากท่าเทียบเรือบางโรงใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ก็จะเดินทางไปถึงเกาะยาวน้อย โดยแพ็คเกจที่เราจองมาจะมีบริการรถสองแถวรับส่งฟรีจากรีสอร์ทมารอรับที่ท่าเรือ
จากท่าเรือใช้เวลาประมาณ 15 นาที เราก็จะเดินทางมาถึงบริเวณหน้ารีสอร์ท มี GEM (Guest Experience Maker) ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือน Butler ดูแลเราตลอดการเข้าพักมารอต้อนรับและพา Resort tour เพื่อแนะนำบริเวณต่างๆ ของรีสอร์ท และพาเข้าไป check-in ที่ห้องพักของเรา แม้ว่าทางรีสอร์ทจะยังไม่ได้เปิดให้บริการห้องพักทุกห้องเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด แต่ในช่วงที่เราเข้าพัก (มีนาคม 2565) ห้องพักทุกห้องที่เปิดก็ถูกจองมาเต็มหมดแล้ว เห็นสถานการ์แบบนี้ก็รู้สึกดีใจกับรีสอร์ทและการท่องเที่ยวที่น่าจะกลับมาดีขึ้นในเร็ววันนี้นะครับ
Hideaway Pool Villa (Villa No.32) ห้องพักระดับเริ่มต้นของรีสอร์ท โดยห้องพักของที่นี่จะเป็น Pool Villa ทั้งหมด จุดเด่นของ Hideaway Pool Villa คือ มีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบสูงมาก สมกับชื่อ Hideaway พื้นที่ห้องพักกว้างขวางถึง 154 ตร.ม. แบ่งออกเป็นโซนสระว่ายน้ำด้านนอก มีศาลาและ day bed ให้นอนอาบแดดได้ ส่วนภายในจะแบ่งออกเป็นพื้นที่ของห้องนอน และห้องน้ำซึ่งกว้างพอๆ กัน มีทั้ง Indoor และ Outdoor Shower การออกแบบยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ Six Senses ที่จะใช้ไม้เป็นส่วนประกอบหลักของ Villa เพื่อให้กลมกลืนกับบรรยากาศธรรมชาติโดยรอบ การใช้โทนสีของตกแต่งเน้นสีเหลืองเป็นหลัก แต่ถึงแม้จะใช้ไม้และวัสดุธรรมชาติในการตกแต่ง แต่ก็ดูหรูหรา และอุปกรณ์ภายในห้องพักก็ครบครันและสะดวกสบาย สามารถเลือกหมอน และ กลิ่นเครื่องหอมภายในห้องได้ด้วย ส่วน Amenities ก็เป็นกลิ่นเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับรีสอร์ทเครือ Six Senses เท่านั้น สิ่งที่เราชอบมากๆ ของรีสอร์ทในเครือ Six Senses คือการใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ และแทบไม่เห็นการใช้ Plastic เลย นำ้เปล่าและ Sparkling ก็บรรจุมาในขวดแก้ว มีแม่บ้านเข้ามาเติมให้เรื่อยๆ ทั้งตอนกลางวันและตอน Turn down หรือหากขาดเหลืออะไรก็สามารถต่อสายตรงหา GEM ได้จากโทรศัพท์ภายในห้องพักเลย
พื้นที่ส่วนกลางเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของ Six Senses Yao Noi โดยเฉพาะ Hilltop ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นห้องพักที่แพงและหรูที่สุดของรีสอร์ท แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็น Main Pool , Hilltop bar และในช่วงเย็นจะกลายเป็นห้องอาหารสำหรับ Dinner ที่วิวดีและโรแมนติกที่สุดเท่าที่เคยไปมา โดยส่วนตัวเราชอบวิวที่ Hilltop มาก และรู้สึกถึงความพิเศษของที่นี่ เพราะในแต่ละช่วงเวลาที่ได้ขึ้นมา วิวและความสวยงามของ Hilltop จะไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง สิ่งที่ห้ามพลาดในการมาเข้าพัก คือการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการถ่ายรูปจริงๆ
ตลอด 3 วัน 2 คืน เราทานอาหารทุกมื้อในรีสอร์ท มื้อที่ประทับใจที่สุด คือ Breakfast ที่ห้องอาหาร Living Room ซึ่งเขาจัดเป็น Buffet มีอาหารหลากหลายมาก ทั้งอาหารไทย ฝรั่ง ติ่มซำ และก๋วยเตี๋ยว โซนเบเกอรี่ก็ดีงาม โดยเฉพาะ Homemade Jam หลากหลายรสชาติที่ทางรีสอร์ททำเอง เมนูไข่ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Farm Egg Pad Kaprao และ Spicy Thai Omelette เป็นอาหารเช้าที่รสชาติเหมาะกับคนไทยสุดๆ ส่วน Dinner ที่ Hilltop แนะนำให้จองโต๊ะไว้แต่เนิ่นๆ เพราะจะได้นั่งในจุดที่วิวดีที่สุด ส่วนใครที่กังวลว่าค่าอาหารจะแพงหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่แพงอย่างที่คิด เพราะนอกจากจะได้ส่วนลด 30% จากแพ็คเกจที่เราจองมา ยังสามารถใช้ Voucher จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาใช้จ่ายที่ห้องอาหารของรีสอร์ทได้ด้วย และที่เราเลิฟมาก คือ Homemade ice cream ที่สามารถแวะมาสั่งได้ตลอดตั้งแต่ช่วง 11.00-20.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมนะ ถูกใจคนรักของหวานอย่างเราเป็นที่สุด
โดยภาพรวมแล้ว แม้ก่อนมาเราจะคาดหวังกับ Six Senses Yao Noi มาแล้วในระดับหนึ่ง แต่หลังจากได้มาเข้าพัก สิ่งที่เราได้รับกลับประทับใจมากเกินกว่าที่คาดไว้เสียอีก ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงเวลาปกติที่นี่จะถูกจองเต็มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาโดยตลอด นอกจากบรรยากาศ สถานที่ ความสวยงามของรีสอร์ทและความเป็นธรรมชาติบนเกาะยาวน้อยแล้ว Service Mind ของพนักงานทุกคน คือสิ่งที่ทำให้ที่นี่ Beyond Expectation มากขึ้นไปอีก และสามารถพูดได้เต็มปากว่าเราอยากแนะนำให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในรีสอร์ทที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย รับรองได้ว่าจะได้รับความประทับใจแบบที่เราได้รับกลับไปแน่นอน…
จุดแรกที่ GEM พามา คือ The Den และ Library เป็นอีกจุดที่วิวสวยมาก
ด้านซ้าย คือ Library เป็นจุดที่เราจะมา check-in และสแกน QR จากการจองโดยใช้เราเที่ยวด้วยกัน
Hideaway Pool Villa ห้องพักของเราในครั้งนี้ครับ
เข้ามาด้านในจะเจอกับเตียง และมีมุ้งขนาดใหญ่อยู่ด้านบนครับ
ด้วยความที่ห้องพักของเราอยู่กลางป่า ช่วงกลางคืนยุงจะเยอะนิดนึง
ช่วง Turn down แม่บ้านจะมาดูแลเรื่องกางมุ้งให้เราด้วย
ทางรีสอร์ทต้อนรับเราด้วยไวน์แดง มีตู้แช่ไวน์ และเครื่องทำกาแฟในโซน Minibar (ไวน์ในตู้แช่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
แคปซูลกาแฟดื่มได้ฟรี มีเติมให้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับน้ำเปล่า (ทั้ง Still และ Sparkling) แม่บ้านจะมาเติมให้เรื่อยๆ
ภายในห้องน้ำ กว้างมากพอๆ กับส่วนของห้องนอน มีอ่างอาบน้ำมองเห็นวิวป่าด้านนอก
มีห้องสุขาแยกกับ Shower รวมถึงมี Outdoor Shower ให้ด้วยครับ
ซึ่งโดยส่วนตัวเราชอบ Outdoor Shower มาก โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนๆ ออกไปอาบน้ำข้างนอกนี่มันดีจริงๆ
ต่อไปเราจะพาไปชมส่วนต่างๆ ของรีสอร์ทกันครับ เริ่มจาก Hilltop ซึ่งเป็นไฮไลท์และเป็นจุดที่เราชอบมากที่สุดของที่นี่เลย
โดยแต่ละช่วงเวลาของ Hilltop ก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป และมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไปด้วย
Hilltop bar เป็นบาร์ที่วิวสวยที่สุดอีกที่หนึ่งที่เราเคยไปมา ที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00-22.00 น. ของทุกวัน
บรรยากาศดีมาก
บรรยากาศบริเวณ Hilltop Bar
ช่วงกลางวันหากใครอยากมาว่ายน้ำในสระที่วิวสวยๆ ก็แวะมาที่ Hilltop ได้ตั้งแต่ 9.00-17.00 น.
ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สีน้ำทะเลสะท้อนกับแสงแดดสวยงามมาก
ส่วนช่วงเย็น Hilltop จะกลายเป็นห้องอาหาร Dinner ที่วิวสวยและโรแมนติกที่สุด
ได้ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมกับชมวิวสวยๆ แบบนี้ คุ้มแล้วที่ได้มา
Dinner & Welcome drink from Hilltop Bar
ส่วนกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง คือ การมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Hilltop ครับ
สามารถแจ้งกับ GEM ของเราเพื่อนัดหมายให้รถ Bucky มารับที่ห้องได้เลย
แนะนำให้นัดก่อนเวลาพระอาทิตย์ขึ้นสัก 10-15 นาทีครับ
จะได้ไปเก็บภาพรอ เพราะช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นก็สวยงามไม่แพ้กัน
แต่ก็ต้องพกดวงไปเยอะๆ ด้วยนะครับ ภาวนาให้ฟ้าโปร่งๆ เพราะเราไปสามวัน ท้องฟ้าแต่ละวันที่ได้ก็ไม่เหมือนกันเลย
ท้องฟ้าของเช้าวันที่ 2 มีเมฆพอสมควร ยังดีที่เมฆแหวกทางให้พระอาทิตย์ออกมาโชว์ตัวให้เราได้เห็น
ถ่ายรูปยังไงก็ออกมาไม่สวยเท่ากับที่ได้เห็นด้วยตาจริงๆ
ส่วนนี่คือท้องฟ้าของเช้าวันที่ 3 วันนี้ฟ้าใสไร้เมฆ
สีท้องฟ้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นคือสวยมาก
หลังดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เราก็ไปทำกิจกรรมของทางรีสอร์ตกันครับ
โดยเขาจะมีให้กิจกรรมให้เลือก เช่น การพายเรือคายัคไปชมป่าโกงกาง, การเพ้นท์ผ้า หรือ การทำน้ำหอม
ถามว่าเราเลือกอะไร ก็ต้องพายเรือคายัคสิ แต่เตือนล่วงหน้าว่าหากใครไม่ได้ออกกำลังกายประจำ
หรือเมาเรือง่าย อย่าหาทำนะ เพราะมันเหนื่อยมาก
บริเวณชายหาดโซนนี้สามารถบินโดรนได้ ก็ลองบินเก็บวิวสวยๆ ดูซะหน่อย (แต่ในเขตรีสอร์ทห้ามบินนะครับ)
มองกลับไปจะเห็นวิลล่าของโรงแรมเรียงรายขึ้นไปบนเนินเขา น้ำทะเลที่หาดใสมาก
วิวป่าเกาะกลางทะเลจากการพายเรือคายัค (แบบทุลักทุเล) ของเรา
พายเรือจนหมดแรง ก็กลับมาเติมพลังกันด้วย Breakfast ที่ห้องอาหาร Living room
อาหารเช้าของเรา อร่อยทุกอย่างเลยนะ แต่ที่แนะนำสุดๆ คือ Farm Egg Pad Kaprao และต้องสั่งเผ็ดแบบคนไทยนะ
นั่งทานอาหารไป ก็ชมวิวสวยๆ ไปด้วย ตรงบริเวณนี้บางคืนจะกลายเป็นที่ฉายหนังด้วย ซึ่งช่วงนี้จะมีเฉพาะคืนวันพุธและเสาร์
และนี่คือสวรรค์ของคนรักไอติม กับ Homemade ice-cream ที่แวะมากินฟรีได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ 11.30 – 22.00 น.
อยากจะกินกี่รส กี่ถ้วย สั่งได้ตามสะดวก มาได้ตลอดทั้งวัน แต่รสที่ห้ามพลาดคือ Banana กินกับรสอะไรก็อร่อย
The Den บาร์หลักของรีสอร์ทที่ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้เปิดเต็มรูปแบบนัก แต่ก็มีเครื่องดื่มให้บริการในช่วงเย็นของทุกวัน
ตั้งแต่ 17.00 – 20.oo น. โดยตีมหลักของเครื่องดื่มในแต่ละวันก็จะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป
เป็นบาร์ที่วิวดี และบรรยากาศเหมาะแก่การมานั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ ในยามเย็น
บรรยากาศภายในรีสอร์ทร่มรื่น ถ้ามีเวลาและมีแรงพอจะเดินทัวร์รีสอร์ทเองโดยไม่ต้องเรียกรถก็ได้
หรือถ้าใครอยากปั่นจักรยานเล่นทั้งภายในรีสอร์ทและด้านนอก ก็มีจุดยืมจักรยานอยู่ด้านหน้ารีสอร์ทเลย
สามารถยืมได้จนถึง 6 โมงเย็นนะ
สุดท้ายเราจะพาไปชม Spa ของรีสอร์ทกันครับ
ห้องทรีตเมนต์ที่ถือเป็นไฮไลท์ของ Six Senses Spa คือห้องนี้เลยครับ
มีวิวสระบัว และมีศาลาพักผ่อนในตัวด้วย สวยงามมากๆ
ก่อน check-out ทาง GEM ที่ดูแลเราตลอดการเข้าพักก็นำของที่ระลึกมาให้
เป็น Tag กระเป๋าไม้ ที่สลักชื่อของเราและชื่อรีสอร์ทไว้ เป็นกิมมิคน่ารักๆ ที่สร้างความประทับใจมากเลยครับ
สุดท้ายนี้เราจะมาสรุปจุดที่ชอบและจุดที่ไม่ชอบจากการได้เข้าพักที่ Six Senses Yao Noi กันครับ
จุดที่ชอบ
- การออกแบบ บรรยากาศ และพื้นที่ต่างๆ ภายในรีสอร์ท คือ จุดเด่นของที่นี่ที่จะหาที่ไหนมาแทนได้ยากมากครับ โดยเฉพาะ Hilltop ซึ่งเป็นจุดขาย และถ่ายรูปยังไงก็สวยจริงๆ
- วิลล่าพื้นที่กว้างขวาง สระว่ายน้ำใหญ่ และจัดสรรพื้นที่ต่างๆ ภายในวิลล่าได้อย่างลงตัว อุปกรณ์ภายในห้องพักครบครัน
- บรรยากาศโดยรวมของที่นี่ เหมาะแก่การปลีกวิเวกมาพักผ่อนอย่างแท้จริง เวลา 3 วัน 2 คืนยังรู้สึกน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เราใช้เวลาทั้งหมดอยู่แต่ในรีสอร์ท แต่ก็ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ ถ้าใครจะมาแนะนำว่าอย่างน้อยต้อง 3 วัน 2 คืนอะ ถึงจะดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างเต็มที่จริงๆ
- การบริการของพนักงานในทุกๆ ส่วนคือที่สุด ขอชื่นชมมากเป็นพิเศษ คือ GEM และแม่บ้าน ที่คอยเข้ามาดูแลห้องพักอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่รู้สึกขาดเหลืออะไรเลย เป็นการบริการที่ไม่ต้องร้องขออะไรเลย เพราะเค้าเตรียมให้เราหมดแล้ว
- อาหารอร่อย ซึ่งแปลกใจมากที่ Head chef เป็นคนอินเดีย แต่อาหารไทยอร่อยมาก และรสชาติแบบไทยๆ ก็รีเควสได้เลย อาหารเช้าก็มีตัวเลือกหลากหลาย ขนาดกิน 2 วันติดยังรู้สึกไม่เบื่อ และยังลองได้ไม่ครบด้วยซ้ำ
จุดที่ไม่ชอบ
- การเดินทางอาจจะดูลำบากและหลายต่อไปหน่อย และค่าเดินทางของทางรีสอร์ทค่อนข้างสูงไปนิด แต่ถ้าวางแผนเวลาดีๆ ก็ไม่เหนื่อยมากนะ
- การเดินทางบนเกาะยาวน้อย ซึ่งถ้าจะออกไปทานอาหารข้างนอกต้องเรียกรถ ของรีสอร์ทมีบริการขาละ 500 บาท ซึ่งราคาค่อนข้างสูง ทำให้เราเลือกที่จะทานอาหารและทำทุกอย่างในรีสอร์ททั้งหมด เลยเสียโอกาสในการไปชมบรรยากาศบนเกาะยาวน้อย (แต่เสียเงินมาพักรีสอร์ทแพงๆ แล้วก็ควรใช้เวลาในรีสอร์ทให้เต็มที่นะ)
- Hideaway Pool Villa อยู่กลางป่า ใครที่กลัวป่า หรือไม่ชอบสัตว์ป่า (เช่น ตุ๊กแก จิ้งจก) อาจจะไม่ชอบได้ เพราะกลางคืนคือเงียบจริงจนวังเวง (แอบไม่กล้ามองออกไปข้างนอกช่วงกลางคืนเลย) แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเงิน 555 คือ จองห้องวิวทะเลไปเลย ก็จะตัดปัญหาตรงนี้ได้ส่วนหนึ่ง
- อาหารกลางวันและเย็น ราคาสูงไปนิด และมีตัวเลือกไม่มากนัก อาจเป็นเพราะช่วงโควิดแบบนี้ทำให้รีสอร์ทไม่ได้ Full Operate ด้วยแหละ แต่ยังดีที่มีส่วนลดและใช้ Voucher เราเที่ยวด้วยกันได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง
- ราคาห้องพัก (โดยเฉพาะราคาปกติ) ที่ค่อนข้างสูงมาก ทำให้เข้าถึงยากนิดนึง แต่ช่วงนี้ทางรีสอร์ทก็จัดโปรโมชั่นมาดีมาก และค่อนข้างคุ้มค่าที่จะไปพักนะ
และนี่ก็คือรีวิวทั้งหมดของ Six Senses Yao Noi นะครับ เป็นอีกที่ที่เราชอบมาก และให้ติด Top 3 ของโรงแรมและรีสอร์ทที่ชอบมากตั้งแต่เคยได้ไปพักมาเลย การทำรีวิวนี้จึงค่อนข้างยากมากสำหรับเราในการถ่ายทอดความรู้สึกและความประทับใจที่มีต่อที่นี่มาเป็นตัวหนังสือให้ได้อ่านกัน แต่แนะนำจริงๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ราคาห้องพักถูกกว่าปกติ (มาก) เป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสความรู้สึกในการเข้าพักรีสอร์ทระดับ World class แบบนี้สักครั้งในชีวิตครับ