Waldorf Astoria : Best Luxury Staycation in Bangkok
หากถามเราว่า Luxury Hotel ในกรุงเทพที่เราชอบมีที่ไหนบ้าง รับรองได้ว่า Waldorf Astoria Bangkok ต้องเป็น 1 ใน Top 3 ของโรงแรมที่เราประทับใจมากที่สุดในกรุงเทพ ทั้งทำเลที่สะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองอย่างราชดำริ เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ที่นี่ยังมีความโดดเด่นในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม / ความสะดวกสบายของห้องพัก / วิวที่สวยมากโดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตก และที่สำคัญคือการบริการที่ดีงาม สมคำว่า Luxury อย่างแท้จริง
เราได้มาพักที่นี่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยเลือกพักห้อง Deluxe Park View ที่มองเห็นวิวของราชกรีฑาสโมสรได้อย่างเต็มตา ภายในห้องกว้างขวาง ตกแต่งและใช้สีสันได้ดูหรูหราสมกับความเป็น Luxury Hotel อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน จุดที่เราชอบ คือ ผ้าม่านที่สามารถเปิดอัตโนมัติเมื่อเราเข้ามาในห้อง และปิดให้เมื่อเราออกจากห้องไปสักพักหนึ่ง, ห้องน้ำมีเครื่องสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ ห้องน้ำแยกทั้งส่วนห้องสุขา / ห้อง Shower และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ Amenities ใช้ของแบรนด์ Salvatore Ferragamo มี Walk-in closet และ Minibar ไว้บริการ
ในส่วนของ Facility ที่ไม่ควรพลาดที่จะมาใช้บริการ (และถ่ายรูปสวยๆ) คือ สระว่ายน้ำของโรงแรม ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม อุณหภูมิน้ำภายในสระปรับให้อุ่นเหมาะกับสภาพอากาศ มีโซนจากุชชี่ให้แช่ และที่สำคัญคือ วิวสวยมากโดยเฉพาะในช่วงเย็น แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าควรมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ ในส่วนอื่นก็มีทั้ง Spa / Sauna / Steam และ Fitness ที่แขกที่เข้าพักสามารถมาใช้บริการได้
ส่วนห้องอาหารที่เราได้ไปใช้บริการ คือ Bull & Bear บนชั้น 55 ของโรงแรม เป็นห้องอาหารและบาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลายเมนู ในส่วนของอาหารที่นี่เขาจะเด่นในเรื่อง Grilled meats & seafood และที่สำคัญคือวิวบนห้องอาหารนี้คือสวยมาก เหมาะแก่การมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือจะชวนคนรักมา Dinner และชมวิวบนนี้ไปด้วย ก็โรแมนติกดีมากเลยนะ
ห้องอาหารเช้าที่ The Brasserie บอกเลยว่ารสชาติและวัตถุดิบที่เขาใช้คือดีมากกกกก เมนูที่ไม่ควรพลาด คือ Truffle Eggเป็น Poached egg ที่ราดด้วยซอสทรัฟเฟิล ท็อปด้วยคาเวียร์ และ Chili Egg เป็น Poached egg ราดด้วยซอสเผ็ด คล้ายกับซอสพริก ทานคู่กับหมูหยองและเบคอนทอดกรอบ นอกจากนี้ก็เป็นอาหารในไลน์ Buffet ทั่วๆ ไป เช่น Cold cut, ติ่มซำ, สลัด, เบเกอรี่ต่างๆ แต่ความต่างคือรสชาติ และวัตถุดิบที่ดีแตกต่างจากที่อื่นๆ
โดยรวมแล้วที่นี่สร้างความประทับใจตลอดการเขาพักให้กับเรา ทั้งความสวยงามของโรงแรม การบริการที่ดีจากพนักงาน และรสชาติของอาหาร ที่เราตั้งใจว่าจะหาโอกาสกลับไปซ้ำแน่นอน และหากใครกำลังมองหาสถานที่ Staycation สวยๆ ในกรุงเทพ หวังว่า Waldorf Astoria Bangkok จะเป็นอีกที่นึงใน List ของคุณนะครับ
มาถึงโรงแรมแล้ว เราก็ขึ้นมา Check-in ที่ Upper Lobby ซึ่งอยู่บนชั้น 14 ของโรงแรม
Peacock Alley ห้องน้ำชาที่สามารถชมวิวราชกรีฑาสโมสร และดื่มด่ำกับ Afternoon tea ยามบ่าย
แค่วิวจากชั้น Lobby ก็สวยมากแล้ว
ต่อไปจะพามาชมห้องพักแบบ Deluxe Park View ที่เราจะมาพักในคืนนี้กันครับ
ห้องตกแต่งสวยงาม ใช้โทนสีที่ Match กันดีมาก ขนาดห้องประมาณ 50 ตร.ม.
ปลายเตียงมีโซฟา โต๊ะนั่งทำงาน และ Smart TV ด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่มองออกไปเห็นวิวเต็มๆ
แสงช่วงเย็นส่องเข้ามาในห้องกำลังดี มองเห็นวิวราชกรีฑาสโมสร
ภายในห้องน้ำแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี มี Shower room และห้องสุขาแยกไปคนละฝั่ง
ตรงกลางห้องเป็นอ่างอาบน้ำ และอ่างล้างหน้าแบบ His & Her
Park View สุดอลังการณ์ มองเห็นตึกมหานครอยู่ไกลๆ
ห้องอาหาร Bull & Bear บนชั้น 55 ของโรงแรม
บรรยากาศภายในห้องอาหาร
บรรยากาศภายในห้องอาหาร
เป็นจุดชม City view ยามเย็นที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพ
บรรยากาศภายในห้องอาหาร
ห้องอาหาร The Brasserie เป็นห้องที่เราจะมาทานอาหารเช้ากันวันนี้
เมนูหลากหลาย วัตถุดิบและรสชาติดีงามมาก เป็น Breakfast ในโรงแรมที่อร่อยมาก
บรรยากาศที่สระว่ายน้ำของโรงแรม
บรรยากาศที่สระว่ายน้ำของโรงแรม