Intercontinental Khao Yai Resort : Luxury & Peaceful place on the hill.
Intercontinental Khao Yai Resort
รีสอร์ทเปิดใหม่ในเครือ IHG ที่คราวนี้เลือก Location ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติอย่าง “เขาใหญ่” เหมาะแก่การมาพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ และเสพการออกแบบที่โดดเด่นของ Bill Bensley สถาปนิกชื่อดังที่เป็นผู้ออกแบบโรงแรม และรีสอร์ทหรูหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งการออกแบบครั้งนี้ใช้ Theme ของการรถไฟในสมัยรัชกาลที่ 5 ผสมผสานกับความ Modern ในแบบตะวันตก สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม และมี Detail ที่น่าสนใจในหลายจุด โดยเฉพาะการออกแบบภายในของห้องพัก ที่ให้บรรยากาศเหมือนนอนอยู่บนตู้รถไฟ รวมถึงห้องพักแบบ Suite และ Villa ที่อยู่บนตู้รถไฟที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้ความเป็นส่วนตัว และแปลกใหม่เหมือนได้เดินทางด้วยรถไฟทางไกล ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบและสวยงาม
เมื่อมาถึงรีสอร์ทจะเจอกับ “สถานีเขาใหญ่” เป็นอาคารที่ออกแบบเหมือนสถานีรถไฟสมัยก่อน ซึ่งเป็นส่วน Lobby ของรีสอร์ท ภายในแบ่งเป็นสองส่วน คือ บริเวณเคาน์เตอร์ check-in และส่วนของห้องพักของนายสถานี มีเตียง 2 ชั้น และมุมทำงานของนายสถานีให้เราได้นั่งถ่ายรูปเล่นระหว่างรอ โดยที่พักของที่นี่มีทั้งหมด 45 ห้อง โดยเป็นห้องพักแบบ Classic และ Suite กระจายอยู่บน 3 อาคาร และส่วนของตู้รถไฟ ที่จะอยู่ลึกเข้าไปด้านในของรีสอร์ท เป็นห้องแบบ Suite และ Pool Villa ซึ่งแม้จะเป็น Room type เดียวกัน แต่การออกแบบภายในของแต่ละห้องก็จะมีความแตกต่างกันไปทั้งสีสัน และสไตล์การออกแบบ
เราได้มาพักที่นี่ 2 คืน ในห้องแบบ 1 King Classic Lake View ซึ่งเป็นห้องพักที่อยู่บนอาคาร จุดเด่นของห้องนี้ คือ วิว Lake เต็มตาที่มองเห็นได้จากระเบียงห้อง ภายในตกแต่งเหมือนอยู่บนตู้นอนรถไฟ Amenities ของโรงแรมใช้ของแบรนด์ Byredo ซึ่งเหมือนกันกับโรงแรม Intercontinental ที่อื่นๆ ในไทย ภายในห้องแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี ทั้งส่วนของห้องน้ำที่กะทัดรัด ออกแบบเหมือนบนรถไฟ ส่วนของ Walk-in closet มีพื้นที่ให้แขวนเสื้อผ้าและวางกระเป๋าเดินทาง
ภายในรีสอร์ทยังมีห้องอาหารทั้งหมด 4 ห้อง เริ่มกันที่ Tea Carriage ห้องน้ำชาบนรถไฟที่ออกแบบได้สวยและคลาสสิกมาก มี Set Afternoon Tea รวมถึงเครื่องดื่มหลากหลายให้บริการ , Somying’s Kitchen ห้องอาหารเช้า Buffet และ all day dining restaurant ที่มีให้เลือกทั้งอาหารไทย และ International , Poirot ห้องอาหารฝรั่งเศสบนรถไฟในบรรยากาศเหมือนอยู่บนขบวนรถ First class ของ Oriental express เสิร์ฟอาหารแบบ Formal French Dining และ Papillon Bar บาร์สุดเท่ที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม Signature สูตรเฉพาะของที่นี่ ในบรรยากาศชิลๆ บนตู้รถไฟสุดคลาสสิก ซึ่งห้องอาหารทั้งหมดนี้ แขกภายนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้เช่นกัน แต่แนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้ามาก่อนนะ
นอกจากนี้ ในแต่ละวันยังมีกิจกรรมพิเศษที่จัดให้แขกที่เข้าพักได้เข้าร่วม อย่างวันที่เราไปพักจะมี Naturalist tour ซึ่งถ้าใครมาพักที่นี่เป็นครั้งแรกแนะนำให้ลองเข้าร่วมดู เพราะไกด์ทัวร์จะเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มสร้างรีสอร์ท พาชมสัตว์และต้นไม้ชนิดต่างๆ ที่ล้วนแต่ผ่านกระบวนการคิด และดูแลสิ่งเหล่านี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี กว่าจะได้ Landscape ภายในรีสอร์ทที่สวยงามอย่างที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันนี้
หากกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนสำหรับวันหยุดที่ใกล้จะถึงนี้ Intercontinental Khao Yai เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยส่วนตัวที่นี่เป็นอีกรีสอร์ทที่เราประทับใจหลายอย่าง โดยเฉพาะบรรยากาศ และการออกแบบที่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย มีกิจกรรมมากมายให้ทำ มีห้องพักหลากหลายแบบให้เลือก รวมถึงการบริการที่ดีสมมาตรฐานของโรงแรมในเครือ IHG ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปอ่านได้ในรีวิวนี้เลยครับ
บริเวณทางเข้ารีสอร์ท
บริเวณจุด Drop off เปรียบเสมือนบริเวณด้านหน้าทางเข้าสถานีรถไฟ
ออกแบบได้สวยงามและมีความ Vintage
ก่อนจะเดินเข้าไปก็สั่นกระดิ่งให้พอเป็นพิธีสักหน่อย
บริเวณ Lobby ของรีสอร์ท จำลองเป็นสถานีรถไฟเขาใหญ่
ที่มีทั้งส่วนที่นั่งพักของผู้โดยสาร และห้องพักของนายสถานี
เราจะมา check-in กันที่บริเวณนี้
มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูประหว่างรอ check-in
ในส่วนของห้องพัก อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าจะมีห้องพักแบบ Classic และ Suite อยู่บนอาคารทั้งหมด 3 อาคาร ได้แก่ ปากช่อง (อยู่ติดกับ Lobby) , ซับม่วง (อยู่ติดกับ Lake) และ บันไดม้า (อยู่ใกล้ห้องอาหารสมหญิง) และอีกโซนจะเป็นส่วนของห้องพักที่อยู่ในโบกี้รถไฟ มีทั้งห้อง Suite และ Villa โดยห้องที่เรามาพักเป็นห้องแบบ 1 King Classic Lake View จุดเด่นของห้องพักแบบนี้ คือ จะมองเห็นวิว Lake แต่ขนาดห้องจะไม่แตกต่างกับห้อง Classic ซึ่งเป็นห้องเริ่มต้น ซึ่งเราได้มาพักห้อง Type นี้ทั้ง 2 ครั้งแต่อยู่กันคนละตึก ทำให้เห็นวิว Lake ที่แตกต่างกัน ใครชอบวิวแบบไหนก็ลอง Request กับทางรีสอร์ทตอนจองได้นะ
Lake view จากอาคารซับม่วง อยู่ใกล้กับ Lake มาก มองไปเห็นห้องน้ำชา Tea Carriage
Lake view มุมสูงจากอาคารปากช่อง มองเห็นวิวภายในรีสอร์ทได้กว้างขวางกว่า
บรรยากาศภายในห้องพักแบบ Classic จะมี Layout ที่เหมือนกัน แต่ต่างที่รายละเอียดและการใช้สีสันของแต่ละห้อง
บริเวณผนังตกแต่งสวยงาม เหมือนนอนอยู่ในโบกี้รถไฟหรู
บริเวณระเบียง เป็นจุดที่เราชอบมานั่ง โดยเฉพาะตอนเย็นถึงค่ำที่อากาศจะเย็นสบาย
และระเบียงของห้องก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปสวย
ห้องสุขาเล็กกะทัดรัด เหมือนห้องสุขาบนรถไฟจริง
พามาชมบรรยากาศที่ห้องน้ำชากันบ้างครับ
โรงน้ำชานี้เขาเอาโบกี้รถไฟมาตกแต่งใหม่ให้สวยงาม
ที่นั่งภายในโบกี้รถไฟ
ที่นั่งด้านนอก
วิวยามบ่ายจากโรงน้ำชา มองเห็นอาคารซับม่วงและ Lake
Afternoon tea set ราคาไม่แรง แขกภายนอกสามารถเข้ามาทานได้ (ต้องจองมาก่อนนะครับ)
หรือถ้าใครไม่อยากทานเยอะ ก็มีเมนูเครื่องดื่มขายแยกเช่นกัน
ถัดมาไม่ไกลจะเป็นโบกี้ของห้องอาหาร Poirot ห้องอาหารฝรั่งเศสที่เสิร์ฟอาหารแบบ Formal French Dining และ Papillon Bar บาร์สุดเท่ที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม Signature สูตรเฉพาะของที่นี่
บรรยากาศภายใน Papillon Bar
บรรยากาศภายใน Papillon Bar
แวะมาจิบเครื่องดื่มดีๆ ถ่ายรูปสวยๆ ในช่วงค่ำได้
ส่วน Breakfast เสิร์ฟที่ห้องอาหารสมหญิง เป็น International Buffet ซึ่งมีอาหารให้เลือกหลากหลาย
บรรยากาศภายในห้องอาหารสมหญิง
บรรยากาศภายในห้องอาหารสมหญิง
แนะนำว่า Croffle ทานคู่กับ Homemade jam คือสิ่งที่ไม่ควรพลาด
Egg Benedict ก็ต้องสั่งนะ
Pool bar และสระว่ายน้ำของรีสอร์ทอยู่ติดกับห้องอาหารสมหญิง
สระขนาดไม่ใหญ่นัก มีโซนจากุชชี่ให้แช่ด้วย
Fitness ของรีสอร์ทเปิด 24 ชม.
บรรยากาศภายใน Fitness
Highlight สุดท้ายที่ไม่อยากให้พลาด คือ การเดินเล่นรอบ Lake ของรีสอร์ท
มองเห็นโซนที่พักแบบโบกี้รถไฟ
ระหว่างเดินเล่นเราก็จะเจอหงส์มากมายทั้งว่ายน้ำและเดินโชว์ตัวให้เราได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด
ถ้ามาตรงกิจกรรม Naturalist ทัวร์ในช่วงสายของวัน จะมีให้อาหารปลาใน Lake ด้วยนะ
และนี่ก็คือภาพรวมบรรยากาศของรีสอร์ทที่เราประทับใจมากอีกที่หนึ่งในประเทศไทย
แนะนำให้มาลองสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่นี่กันสักครั้งนะครับ