Cherry Blossom Japan 2023 : ตามล่าหาซากุระ

ฤดูกาลตามล่าซากุระของปี 2023 กำลังจะผ่านไปแล้ว

เป็นอีกปีที่เราได้ไปชมซากุระ วางแผนซะดิบดี แต่ปีนี้ซากุระดันบานไวไปอีก!

แต่ก็ยังดีที่หลายๆที่ยังสวย พอให้เราได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ กันได้อยู่ (แม้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนแผนกันวันต่อวันก็ตาม)

รีวิวนี้จึงรวบรวมจุดชมซากุระที่เราได้ไปมาทั้งหมดในทริปนี้จาก 4 เมือง ได้แก่ Tokyo , Saitama , Osaka และ Kyoto รวมทั้งหมด 10 สถานที่ ได้แก่

  • Edo-Sakura Dori (Nihombashi)
  • Chidorigafuchi Park
  • Naka-meguro
  • Kumagaya
  • Motoara River
  • Tachikawa
  • Kema Sakuranomiya Park
  • Nanatani River , Kameoka
  • Heian Shrine
  • Ninna-ji

พร้อมพิกัดและคำแนะนำให้เพื่อนๆ ได้วางแผนเตรียมพร้อมสำหรับการไปตามล่าซากุระในปีต่อๆ ไป
ถ้าพร้อมแล้ว เข้าไปอ่านรายละเอียดกันในโพสท์นี้ได้เลยครับ

**ช่วงเวลาที่เดินทาง 30 มีนาคม – 5 เมษายน พ.ศ. 2566**

Edo-Sakura Dori , Nihombashi (Tokyo)

จุดชมซากุระที่ไม่ค่อย Mass เท่าไรใน Tokyo ความพิเศษของจุดนี้ คือ มีอุโมงค์ซากุระเรียงรายตามถนน มีฉากหลังเป็นอาคารที่ออกแบบสไตล์ยุโรป ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากการไปชมซากุระที่จุดอื่น มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปกันพอสมควร แต่อาจจะถ่ายค่อนข้างยาก เพราะคนเดินกันพลุกพล่าน (เป็นย่านสำนักงาน) และต้นซากุระตรงจุดนี้จะค่อนข้างสูง เหมาะกับการมาชมบรรยากาศ หรือสายถ่ายภาพ Street น่าจะชื่นชอบ

พิกัด :  https://goo.gl/maps/FBWRdmcGKTWhp4NWA

Mitsukoshimae Station (Exit B1)

Chidorigafuchi Park (Tokyo)

สวนสาธารณะชื่อดังที่อยู่ติดกับ Imperial Palace จุดเด่นของที่นี่คือการมาชมซากุระที่อยู่รอบๆ สระน้ำ และมีคนมาพายเรือ ถีบเรือเป็ดกันอย่างสนุกสนาน เป็นอีกจุดหนึ่งใน Tokyo ที่เป็นที่นิยม (ใครไม่อยากเจอคนเยอะๆ โปรดหนีไป) จุดสังเกต คือ อย่าปักหมุด Chidorigafuchi Park ใน Google map เพราะมันไม่ใช่จุดถ่ายรูปที่เป็นไฮไลท์ของสวนนี้ และมุมที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปจะมีอยู่ 2 จุด จุดแรกที่คนชอบมาถ่ายรูปกันจะเป็นจุดลงเรือ (Chidorigafuchi Moat) และอีกจุด คือ Kudanzaka Park ใกล้กับสถานี Kudanshita

พิกัด : https://goo.gl/maps/FPAgKYYNi4X5GpM19 (จุดลงเรือในภาพด้านบน) และ https://goo.gl/maps/EnmCvPtoTBfPP6Vt6 (Kudanzaka Park)

แนะนำให้ลงสถานี Kudanshita เพราะจะเดินไม่ไกล ชมจุดแรกที่ Kudanzaka Park แล้วค่อยเดินไปที่ Chidorigafuchi Moat จะประหยัดเวลาและระยะเดินน้อยกว่าไปลงที่สถานี Hanzomon

มุมมองจาก Kudanzaka Park

Naka-meguro (Tokyo)

เป็นอีกจุดชมซากุระใน Tokyo ที่สวยงามทั้งกลางวันและยามค่ำคืน เราเลือกมาชม Light up ที่นี่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่ก็แอบเสียดายนิดหน่อยที่มาในช่วงที่เลยจุด Peak ไปแล้ว และแม้จะมาตอนกลางคืน แต่คนที่มาเที่ยวชมซากุระก็ยังเยอะมากอยู่ดี ใครอยากมาเดินสบายๆ แนะนำให้มาตอนช่วงเช้าน่าจะดีกว่า

พิกัด : https://goo.gl/maps/DkYx8EgaEqJuuma36

Naka-meguro station

Kumagaya (Saitama)

ขอยกให้ที่นี่เป็น The best ของทริปนี้เลย เพราะมีซากุระให้เดินชมได้อย่างจุใจมาก ใครที่ชอบถ่ายรูป และอยากหนีคนเยอะในโตเกียวแนะนำให้นั่งรถไฟมาที่นี่เลย เดินทางสะดวกมาก โดยเฉพาะถ้าใครพักแถว Ueno สามารถนั่ง Shinkansen มาที่นี่ได้ในครึ่ง ชม. แนะนำให้มาถึงที่นี่ไม่เกิน 8 โมงเช้าจะเดินถ่ายรูปได้สบายๆ เพราะแดดยังไม่ร้อน และคนยังไม่เยอะมากนัก

พิกัด : https://goo.gl/maps/tna5x8EJuWQVUWLE9?coh=178572&entry=tt

Kumagaya station (South Exit) เดินต่อประมาณ 300 เมตร

Motoara River (Saitama)

นั่งรถไฟมาจาก Kumagaya เพียงสองสถานีก็มาถึงที่นี่ จุดเด่นคือมีอุโมงค์ซากุระโอบล้อมลำคลองที่ทอดยาวไปในย่านชุมชม เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีเพียงคนในย่านนั้นมาเดินชมมากกว่านักท่องเที่ยว เหมาะแก่การไปเดินถ่ายรูป

พิกัด : https://goo.gl/maps/K4GPqLRPq221cVwb9?coh=178572&entry=tt

Fukiage Station (North Exit) เดินต่อประมาณ 200 เมตร

Tachikawa (Tokyo)

จุดชมซากุระขวัญใจคน Local ที่เราแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการมาในวันหยุด เพราะคนเยอะมากกกกกก จุดเด่นของที่นี่คือซากุระต้นใหญ่ที่เรียงรายขนาบคลองทั้งสองฝั่ง และโน้มกิ่งทอดยาวลงมาจนแทบจะถึงกลางคลองกันเลยทีเดียว ซากุระที่นี่สวยมากจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เราถ่ายรูปอะไรแทบไม่ได้เลยเพราะคนมาเยอะไปหมด 555 และอีกอย่างที่อยากเตือน คือ ที่นี่ไม่มีชื่อขึ้นใน Google Map แต่เราได้ปักพิกัดแบบ Manual เอาไว้ให้ รับรองว่าไม่หลงแน่นอน (เพราะเราหลงมาก่อนแล้ว)

พิกัด : https://goo.gl/maps/dxi9zdquy5StLdsq6?coh=178572&entry=tt

Shibasaki-Taiikukan Station เดินต่อประมาณ 10 นาที

มีอีกจุดที่หลายๆ เพจแนะนำให้ปักพิกัดนี้ https://goo.gl/maps/kDQV72BtzBtFEhsv7?coh=178572&entry=tt  ซึ่งก็สวยดีแต่มันไม่ใช่จุดไฮไลท์นะทุกคน อย่าไปผิดที่จ้า

Kema Sakuranomiya Park (Osaka)

ข้ามมาที่ Osaka กันบ้างครับ กับสวนสาธารณะใจกลาง Osaka ที่มีต้นซากุระเยอะมาก และอยู่ไม่ไกลจาก Osaka Castle ด้วย หากใครเดินไหวก็สามารถเดินต่อไปได้เลย แนะนำว่าให้มาที่นี่ช่วงเย็น เพราะถ่ายรูปสวยและไม่ย้อนแสง

พิกัด : https://goo.gl/maps/cnB5cKKAXgGbUeb6A?coh=178572&entry=tt

JR Sakuranomiya station

Nanatani River (Kameoka)

เดิมทีแพลนจะไปเกียวโต แต่จุดที่อยากไปซากุระร่วงจะหมดแล้ว เลยหาข้อมูลไปเรื่อยจนเจอที่นี่โดยบังเอิญ ซึ่งเป็นที่ลับแลหน่อยแต่ดูจากรูปแล้วสวยจัง ถ้าปักตาม Google Map ที่นี่เรียกว่า Sakura Park แต่ตามรีวิว (ที่เจอ) เรียก Nanatani River (Yawaragi Road) อยู่ในเมือง Kameoka ถ้าใครเคยไป Arashiyama ที่นี่จะอยู่เลยมาอีกนิดนึง (ถ้านั่งรถ Rapid train ก็ห่างกันสถานีเดียวเอง)
ถึงสถานี JR Kameoka การเดินทางไปที่นี่มีสองวิธี คือ รถบัส (200 เยน) แต่รอบรถมีทุก 2 ชม. ขากลับก็เช่นกัน ทุก 2 ชม. นั่นหมายความว่าเราจะมีเวลาเที่ยวถ่ายรูปประมาณ 2 ชม. เต็มๆ
รอบรถบัส
ขาไป เวลา 7:47 / 8:55 / 10:05 / 12:45 / 14:06 / 15:06 / 17:36
ขากลับ เวลา 7:31 / 8:29 / 9:52 / 12:11 / 14:52 (เฉพาะวันหยุด) / 15:52 / 18:23
ส่วนอีกวิธีคือ แท็กซี่ แต่เรียกได้แค่ขาไปนะ ขากลับไม่มี ต้องรอกลับรถบัสอยู่ดี ข้อดีคือไปตอนไหนก็ได้ แต่ข้อเสียคือมันแพง ระยะทาง 4 กม. นิดๆ โดนค่าแท็กซี่ไป 1,600 เยน กะว่าถ้ามันไม่สวยนี่คงเซ็งมาก แต่ไปถึงแล้วก็ไม่ผิดหวังเลยนะ แม้ตอนนี้ความฟูฟ่องจะเหลือสัก 50-60% แต่วิวมันอลังมากกกก มีคู่รักมาถ่าย Pre-wedding กันเยอะมากเลย ถ้ามาช่วง Full Bloom ใหม่ๆ คงฟินสุด เพราะที่นี่ซากุระต้นใหญ่ และอยู่ติดกันเป็นแถวยาวเลียบไปตามแม่น้ำ (ซึ่งตอนนี้น้ำแห้งอยู่) มีเวลาถ่ายรูป 1 ชม. นิดๆ ก็เก็บได้หลายมุมเลย ใครชอบมุมใหม่ๆ ไม่ไกลเกียวโต (แต่เดินทางลำบากหน่อยเพราะมันต้องต่อรถนี่แหละ)
JR Kameoka station

Heian Shrine (Kyoto)

เป็นอีกที่ในเกียวโตที่บานช้ากว่าจุดอื่น ทำให้เรายังพอไปชมซากุระบานที่นี่ได้ (ในขณะที่จุดยอดฮิตของ Kyoto พากันร่วงไปหมดแล้ว) จุดเด่นคือมีสายพันธุ์ Weeping cherry ที่มีลักษณะเป็นกิ่งห้อยลงมาเหมือนสายน้ำตก แต่ส่วนตัวว่ามันไม่ค่อยอลังเท่า Ninna-ji แต่ดีที่โซนนั้นไปเดินเที่ยวเล่นต่อได้อีกหลายที่ ลองแวะไปดูกันได้จ้า
สถานี Higashiyama เดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร ค่าเข้าชมสวน 600 เยน

Ninna-ji (Kyoto)

ปิดท้ายกันที่วัด Ninna-ji จุดเด่นของที่นี่ คือ มีซากุระสายพันธุ์ Omuro ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ต้นเตี้ย และจะบานช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ ทำให้ที่นี่ยังคงบานสวยอยู่ประมาณ 80-90% ในช่วงที่เราไป แม้บางต้นจะเลยพีคมาแล้ว ร่วงบ้าง ใบแซมเยอะบ้าง แต่ภาพรวมถ่ายรูปออกมายังสวยสะกด และข้อดีอีกอย่างของสายพันธุ์นี้คือต้นเตี้ย ถ่ายรูปคู่ได้สบายๆ
รถไฟ Randen สถานี Omuro-Ninnaji
ค่าเข้าชม (เฉพาะโซนซากุระ) 500 เยน