W Osaka : โรงแรมดีไซน์สวยและ Vibe ดีที่สุดในโอซาก้า

W Osaka
สวัสดีปีใหม่ 2024 นะครับทุกคน
ขอให้สุขภาพแข็งแรง การงานรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมานะครับ
สำหรับรีวิวแรกของปีใหม่นี้ เราจะพาไปพักกันที่โรงแรม W Osaka ซึ่งถือเป็นโรงแรม W แห่งแรกในญี่ปุ่น ที่โดดเด่นตั้งแต่การออกแบบภายนอก ที่แม้จะเป็นอาคารสูงทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่พิเศษตรงที่มีการใช้หินเงาสีดำคลอบคลุมพื้นที่ภายนอก ทำให้ดูเรียบหรู และ Minimal ตามสไตล์ของสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Tadao Ando และออกแบบภายในโดย Concrete ที่เน้นความโมเดิร์น ล้ำสมัย ทำให้ W Osaka เป็นโรงแรมที่สวยงามและโดดเด่นมากอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

ภายนอกของโรงแรม W Osaka ดีไซน์โดย Tadao Ando เป็นตึกสีดำเรียบเท่ ที่โดดเด่นมาก
ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 337 ห้อง ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 40 ตร.ม. ซึ่งใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดห้องของ รร.ในญี่ปุ่น เราได้พักห้อง Spectacular View ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นห้องมุม ทำให้ได้วิวแบบ Panorama ทั้งส่วนของห้องนอน และ วิวจากอ่างอาบน้ำ, Shower room และห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วน, walk-in closet ขนาดใหญ่เก็บกระเป๋าเดินทางได้สบาย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในห้องที่ทันสมัยมาก

สัญลักษณ์ W คอยต้อนรับเราอย่างโดดเด่นเมื่อมาถึงโรงแรม

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือ ทำเล เพราะอยู่ใกล้กับ Shinsaibashi ย่าน Shopping ชื่อดังของ Osaka ถ้าเดินทางด้วย Subway ให้สถานี Shinsaibashi ทางออกที่ใกล้ รร. ที่สุดคือ Exit 3 แต่ข้อเสียคือไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟท์ครับ ส่วนทางออกที่กำลังทำใหม่และอยู่ใกล้กันคือ Exit 1 คาดว่าถ้าปรับปรุงเสร็จน่าจะสะดวกกว่านี้ แต่หากเดินทางมาจากสนามบิน แนะนำนำรถไฟ Nankai ลงที่สนามบิน Namba แล้วต่อ Taxi มาที่ รร ได้เลย สะดวกและระยะทางไม่ไกลครับ
หากใครสนใจอยากมาพักที่นี่ ราคาห้องพักเริ่มต้นประมาณ 55,000 JPY / คืน (ราคาอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่วงเวลาที่เข้าพัก) ส่วนใครอยากอ่านรีวิวแบบละเอียดตามมาอ่านกันต่อได้เลยครับ
ทางเข้า รร. ฝั่งถนน Midosuji อลังการสุด เป็นมุมถ่ายรูป check-in จุดแรกของ รร. ก็ว่าได้
เข้ามาจะพบกับ Arrival zone มีพนักงานมาต้อนรับและรับกระเป๋าของเราไว้
Lobby และ Counter check-in จะอยู่ที่ชั้น 4 ของโรงแรม พนักงานต้อนรับดีมาก
บริเวณเคาน์เตอร์ check-in

Living Room

บาร์ของโรงแรมที่กลางวันจะเสิร์ฟ afternoon tea แต่ตกกลางคืนบรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นบาร์ชิคๆ
ที่บางวันจะมี DJ มาสร้างความคึกคักด้วย

บรรยากาศบริเวณ Living Room

มาชมห้องพักของเรากันดีกว่าครับ

เปิดประตูห้องพักมา จะพบกับส่วนของห้องน้ำแบบ Open space อยู่ทางด้านซ้าย
ด้านขวาจะเป็น walk-in closet และ ห้องสุขาที่ออกแบบซ่อนมาให้ดูเหมือนผนังห้องได้อย่างแนบเนียน

เดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นส่วนของเตียงนอนและ sofa bed รวมถึง City View แบบ Panorama

การเข้าพักครั้งนี้เราแลก Free Night + Gold Elite Status ทาง รร. ได้ upgrade จาก Cozy Room (ห้องเริ่มต้น)
ไปเป็น Spectacular, Corner Room ทำให้ได้เห็นวิวแบบเต็มๆ 

จุดเด่นของห้องนี้นอกจาก City View ที่มองเห็นได้รอบห้องแล้ว
ส่วนของ Bathtub ยังสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้อีกด้วย เป็นการออกแบบห้องที่น่าประทับใจมากๆ

ลงมาชม Facility ของโรงแรมที่อยู่บนชั้น 4 กันครับ
ออกจากลิฟท์มาเราจะพบกับโซนต้อนรับของ AWAY Spa ซึ่งเป็นสปาของโรงแรม

ถัดเข้ามาด้านในจะพบกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ตกแต่ง และใช้ Lighting ได้สวยมาก โดยเฉพาะในยามค่ำคืน

WET Deck and Bar
ติดกับสระว่ายน้ำ ด้านนอกจะเป็นโซนที่นั่งสำหรับคนที่อยากมาชิลๆ อาบแดดในช่วงกลางวัน

Fitness ของโรงแรม เปิดให้บริการ 24 ชม.

บรรยากาศหน้าโรงแรมยามค่ำคืน