Digital vs Film : ภาพแบบไหนถูกใจกว่ากัน ?

6206_lomo100_037ยุคนี้มีกล้อง Digital ดีๆ ตั้งหลายยี่ห้อ ทำไมยังต้องใช้กล้องฟิล์มอีก?

กล้องฟิล์มบางรุ่น เลนส์บางยี่ห้อ ก็แพ้งแพง แล้วมันดีสมราคาจริงหรือเปล่า?

กล้องฟิล์มถ่ายยาก กะแสง กะ Compose ไม่ถูก ทำไมยังชอบรูปจากฟิล์ม?

ฟิล์มดีกว่า Digital ยังไง?

นี่คือคำถามส่วนหนึ่งที่คนใช้กล้องฟิล์มคงได้ประสบพบเจอมาบ้าง
รีวิวนี้เราจึงทำการทดลองเล่นๆ โดยใช้กล้องฟิล์ม และกล้อง Digital ติดเลนส์ระยะ 50 mm
ยืนถ่ายที่จุดเดียวกัน ณ เวลาเดียวกัน Compose รูปใกล้ๆ กัน
มาให้ได้ลองเปรียบเทียบดูว่าชอบแบบไหนมากกว่า
และให้ลองทายกันเล่นๆ ว่ารูปไหนถ่ายจากกล้องฟิล์มบ้าง (เฉลยตอนท้ายนะ)
และเราจะปิดท้ายด้วย Comment ในมุมมองของเราเล็กๆ น้อยๆ จากการทดลองครั้งนี้ให้อ่านกันด้วย

อุปกรณ์ที่ใช้ในรีวิวครั้งนี้

Digital : Sony a7III / Leica Summilux 50 ASPH (เปิดที่ F1.4 ทุกรูป)
Film : Nikon F80 / Nikkor 50 F1.8D (เปิดที่ F1.8 ทุกรูป) / Lomo 100
Model Instagram : @cookies_milkshake , @gunnkws

P01

1
P03

2

P02

3

P06

4

P05

5

P08

6

P16

7

P09

8

P07

9

P11

10

P10

11

P12

12

P17

13

P13

14

P14

15

P04

16

P1517

เป็นยังไงบ้างครับกับรูปทั้งหมดที่ได้ชมกันไป
ความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่ายังไงโทนแบบฟิล์มมันก็เป็นอะไรที่ Unique มาก ยากจะหาอะไรมาแทนได้
แม้ว่าเรื่องของความคม หรือดีเทล ที่เครื่องแสกนของทางร้านอาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากับเซนเซอร์ดีๆ ในกล้อง Digital รุ่นใหม่ๆ
แต่โทนสี มิติ และ Mood ของฟิล์ม ก็มีความสวยงามในแบบของฟิล์มอยู่

รีวิวนี้อาจจะไม่ได้คุมปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หรือ Preset ที่ใช้ก็ไม่ได้เป็น Preset สีแบบเดียวกับฟิล์ม
แต่ก็หวังว่าจะพอทำให้ได้เห็นความแตกต่างของผลลัพธ์ที่ได้ ว่าแบบไหนคือแบบที่ชอบ และเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับสไตล์ของเรานะครับ

ไว้ถ้ามีโอกาสทดลองถ่ายรูปอะไรสนุกๆ แบบนี้อีก จะเอามาแชร์ให้ได้อ่านกันครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับผม

เฉลยรูป

1 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

2 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

3 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

4 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

5 : : ซ้าย = Digital ขวา = Film

6 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

7 : บน = Film ล่าง = Digital

8 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

9 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

10 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

11 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

12 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

13 : บน = Digital ล่าง = Film

14 : ซ้าย = Digital ขวา = Film

15 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

16 : ซ้าย = Film ขวา = Digital

17 : บน = Digital ล่าง = Film


Morocco : Before Summer

OverProject 2

azul!

เริ่มต้นทักทายกันด้วยภาษา Berber ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของชาว "Morocco"
ประเทศที่หลายๆ คน (รวมทั้งเราด้วย) เคยสงสัยว่ามีอะไรน่าสนใจ และอยู่ส่วนไหนของโลก?
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยว Morocco
ซึ่งช่วงเวลานี้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว และเราก็โชคดีมากที่อากาศดี ฟ้าสดใสตลอดทั้ง 7 วัน
ทำให้ทริปนี้เราได้ภาพดีๆ แสงสวยๆ มาเยอะแยะเลย
เราจึงอยากจะแนะนำ Morocco ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักผ่านมุมมองของเรา
ให้ได้สัมผัส Morocco ด้วยตากันสักนิด
และครั้งหน้า เราจะพามารู้จักกันอย่างเจาะลึก ผ่านรีวิวแบบเต็มๆ กันอีกที

ดูจบแล้วถ้าชอบ...จะกดหาตั๋วโปรไว้ก่อนก็ไม่ว่ากันนะครับ

Camera : CONTAX T2 , Minolta P's (Panorama shot)
Film : Lomo 100, Lomo 400
Scan & Dev : Flashbox

6205_P_MorocR1_lomo100_036
เริ่มต้นทริปนี้ที่ Casablanca เมืองที่ใครๆ ก็เคยได้ยินชื่อ แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงของ Morocco หรอกนะ
สถานที่เที่ยวที่เป็น Landmark ของ Casablanca ก็คือ "Hassan II Mosque"

6205_P_MorocR1_lomo100_030

ที่นี่จัดเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
ด้านในสามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน และลานด้านนอกจุได้ประมาณ 80,000 คน

6205_P_MorocR1_lomo100_035

6205_P_MorocR1_lomo100_037

6205_P_MorocR1_lomo100_033

สถาปัตยกรรมของมัสยิดนี้ก็สวยงามอลังการณ์ไม่แพ้ขนาดเช่นกัน

6205_P_MorocR1_lomo100_013

คาเฟ่เก๋ๆ ที่นี่เขามี %Arabica กาแฟชื่อดังจาก Kyoto มาเปิดสาขาอยู่ใจกลางเมืองด้วย

6205_T2MorocR1_Por400_017

จาก Casablanca เดินทางต่อประมาณ 80 กม. เพื่อไปยัง Rabat ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Morocco
จุดแรกที่ได้ไปแวะก็คือ "Kasbah of Udayas" ซึ่งเป็นป้อมปราการที่สร้างติดกับมหาสมุทร Atlantic
ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ทำให้เราสามารถชมวิวมหาสมุทร Atlantic และเมือง Rabat ได้จากจุดนี้

6205_P_MorocR1_lomo100_011

6205_P_MorocR1_lomo100_004

วิวมหาสมุทร Atlantic จากบนป้อมปราการ

6205_P_MorocR1_lomo100_010

6205_P_MorocR1_lomo100_006

บรรยากาศด้านบนของป้อมปราการ

6205_P_MorocR1_lomo100_007

6205_T2MorocR1_Por400_006

บรรยากาศในชุมชนระหว่างทางเดินขึ้นไปยังป้อมปราการ
บ้านเมืองที่นี่มีความคุมโทนมาก อย่างบริเวณนี้บ้านทุกบ้านจะทาสีฟ้าครึ่งล่าง ครึ่งบนเป็นสีขาว

6205_T2MorocR1_Por400_030

6205_T2MorocR1_Por400_008

6205_T2MorocR1_Por400_002

ถัดจาก Kasbah of Udayas ไปไม่ไกล จะพบกับ Landmark ของ Rabat นั่นคือ Hassan Tower
และ Mausoleum of Mohammed V ซึ่งเป็นสุสานของกษัตริย์ Mohammed V มีทหารยามเฝ้าประตูทางเข้า - ออกทั้ง 2 ฝั่ง

6205_P_MorocR1_lomo100_008

6205_P_MorocR1_lomo100_0056205_T2MorocR1_Por400_023

คืนแรกเราพักที่ Riad ในย่าน Old Medina หรือย่านเมืองเก่าของ Rabat
ทำให้มีเวลาเดินสำรวจแถวนั้นบ้างเล็กน้อยก่อนพระอาทิตย์จะตก
สิ่งหนึ่งที่อยากเตือนเกี่ยวกับการถ่ายรูปใน Morocco คือ อย่าถ่ายรูปคน โดยเฉพาะคนแก่
เพราะคุณอาจจะโดนเขาเดินเข้ามาด่าและให้ลบรูปได้ (เพื่อนเราโดนไปแล้ว) แต่โชคดีที่การใช้กล้องฟิล์มเล็กๆ
ก็ลดความน่าสะดุดตา และดูเป็นมิตรกว่ากล้องใหญ่ได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไงก็ควรระมัดระวังอยู่ดี

6205_T2MorocR1_Por400_026

วิถีชีวิตของผู้คนใกล้กับ Kasbah of Udayas ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองใหม่ของ Rabat

6205_P_MorocR1_lomo100_014

วันที่ 2 ใน Morocco เรานั่งรถกันยาวนานประมาณ 5 ชม. เพื่อมาเที่ยวยังเมืองที่ได้ฉายาว่า "Blue Pearl"
นั่นก็คือเมือง "Chefchaoun" ที่ได้ฉายานี้ก็เพราะว่าเมืองนี้ทาด้วยสีฟ้าทั้งเมือง
เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่มา Morocco ยังไงก็ต้องมาแวะเมืองนี้สักครั้ง ไม่อย่างนั้นคงเหมือนมาไม่ถึง

6205_T2MorocR1_Por400_022

มุมนี้เป็นจุดชมวิวข้างทาง ก่อนจะเข้าไปยังตัวเมือง Chefchaoun
ส่วนที่เป็นจุดท่องเที่ยวนั่นคือส่วนที่อยู่ตรงเชิงเขา ที่เป็นหมู่บ้านสีฟ้าทั้งหมด

6205_T2MorocR1_Por400_020

ประตูเมือง Chefchaoun มีสีฟ้าเป็นเอกลักษณ์

6205_T2MorocR1_Por400_024

บ้านเรือนสีฟ้าตั้งไล่ระดับกันอยู่ตรงเชิงเขา
แนะนำให้นอนค้างในเมืองสักคืน มีมุมให้เดินถ่ายรูปกันได้ตั้งแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ

6205_T2MorocR1_Por400_016

The Blue Street : จุดถ่ายรูปยอดนิยมในเมือง Chefchaoun

6205_P_MorocR1_lomo100_012

HAMSA : Cafe ที่วิวดีที่สุดใน Chefchaoun

6205_P_MorocR1_lomo100_021

DarSababa : Riad ที่เราพักที่ Chefchaoun อยู่ในใจกลางของเมือง และมีวิว Rooftop ที่ดีงามสุดๆ

6205_P_MorocR1_lomo100_025

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คือ การขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกที่ Spanish Mosque
สามารถเดินขึ้นมาได้จากใจกลาง Medina ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 - 30 นาที (แล้วแต่กำลังขา)

6205_T2MorocR2_Por400_036

6205_T2MorocR2_Por400_033

บรรยากาศระหว่างทางเดินขึ้น Spanish Mosque

6205_T2MorocR2_Por400_037

6205_T2MorocR2_Por400_030

บรรยากาศเมือง Chefchaoun ก่อนพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า

6205_T2MorocR2_Por400_011

จากเมือง Chefchaoun เราเดินทางต่อไปยัง Fes อดีตเมืองหลวงของ Morocco
เมืองนี้จัดเป็นอีกเมืองที่ใหญ่และมีผู้คนอาศัยอยู่มาก จุดขายของที่นี่คือ Medina ที่ใหญ่มากๆ
เรียกว่าใหญ่ที่สุดใน Morocco ก็ว่าได้ ทำให้ที่นี่เราต้องอาศัย Local Guide เพื่อพาเดินไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ
ซึ่งถ้านับระยะทางเดินรวมทั้งหมดใน Medina จะเป็นระยะทางถึง 30 กม. แต่เราเดินเที่ยวกันแค่ 6 กม.เท่านั้น

Moroc02

ภายใน Medina จะมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ Morocco ที่สวยงาม
อาคารเหล่านี้เคยเป็นโรงเรียนของชาวมุสลิม ซึ่งใน Medina ก็มีโรงเรียนแบบนี้อยู่หลายที่
แต่จุดที่ไกด์พาไปต้องเสียค่าเข้าชม ไกด์บอกว่าดูที่เดียวก็พอ ที่อื่นๆ ก็คล้ายกันหมด

6205_T2MorocR2_Por400_001

บรรยากาศภายใน Fes Medina

6205_T2MorocR2_Por400_013

เด็กๆ เพิ่งเลิกเรียนพอดี

6205_P_MorocR1_lomo100_023

และ Hi-light อีกอย่างของ Fes ก็คือ Chouara Tannery
เป็นสถานที่ฟอกหนังและย้อมสีที่ใหญ่ที่สุดใน Morocco
ใครชอบเครื่องหนังที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อกัน ณ ที่ผลิตเลยแหละ แต่ราคาก็แรงใช้ได้อยู่

6205_P_MorocR1_lomo100_015

เราสามารถเข้าไปชมที่จุดนี้ได้โดยไม่เสียเงิน
แต่เจ้าของร้านก็จะทำการขายกับเราไปด้วย ถ้าขี้เกรงใจก็มีโอกาสได้ของติดไม้ติดมือออกมาแน่นอน

Moroc01

6205_T2MorocR2_Por400_003

บริเวณจุดชมวิวที่ Chouara Tannery

6205_T2MorocR2_Por400_028

ภายใน Medina ของ Fes ที่กว้างมาก ทำให้มีมัสยิดกระจัดกระจายอยู่หลายที่
และแทบทุกที่ที่เราผ่านไม่อนุญาตให้คนศาสนาอื่นเข้าไปได้
และแต่ละที่ก็จะมีเวลาละหมาดไม่ตรงกัน (แต่อาจจะเหลื่อมกันไม่มาก)
เผื่อว่ามาที่แรกไม่ทัน จะได้เผื่อเวลาไปอีกที่หนึ่งได้

Moroc03

6205_T2MorocR2_Por400_016

เราใช้เวลาเดินเที่ยวใน Fes Medina ประมาณ 3-4 ชม. ไกด์ก็พาเราไปปิดทริปของวันนี้ที่จุดชมวิวของเมือง Fes
จากมุมนี้สามารถมองเห็นเมืองได้แบบ Panorama จะเห็นได้ว่าเมืองนี้ใหญ่มากจริงๆ (นี่เฉพาะส่วนที่เป็นเมืองเก่านะ)

6205_P_MorocR2_lomo100_011

วันต่อมาถือว่าเป็นวันที่นั่งรถนานที่สุดก็ว่าได้ เพราะเราต้องเดินทางจาก Fes ไปยังทะเลทราย Sahara
ซึ่งอยู่ในเมือง Merzouga ระยะทางกว่า 500 กม. ใช้เวลาประมาณ 7 - 8 ชม.

6205_P_MorocR2_lomo100_010

แต่ไม่ต้องกลัวว่านั่งรถนานแล้วจะเบื่อ เพราะระหว่างทางมีวิวสวยๆ ให้ชมกันตลอด
แนะนำว่าอย่าเผลอหลับยาวจะดีกว่า

6205_P_MorocR2_lomo100_034

6205_P_MorocR2_lomo100_001
เราเดินทางมาถึงทะเลทราย Sahara เกือบ 6 โมงเย็น คนขับรถจะพาเรามาส่งที่ทางเข้า
แล้วจะมีรถ 4WD ของ Camp ที่เราจะเข้าพักมารอรับ เพื่อส่งเราไปยังจุดขึ้นอูฐ

เพราะว่าวันนี้ เราจะขี่อูฐเข้าไปในแคมป์ และชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทะเลทราย Sahara กัน!

6205_P_MorocR2_lomo100_032

คนนำขบวนอูฐของเรา มีหน้าที่คอยดูแลและคอยถ่ายรูปให้เป็นระยะ

6205_T2MorocR3_lomo400_033

มีหลายขบวน ที่มุ่งหน้าไปยังแคมป์ต่างๆ
การนั่งบนหลังอูฐท่ามกลางทะเลทรายแบบนี้ ก็ได้บรรยากาศและความทรงจำที่ดีเหมือนกันนะ

6205_P_MorocR2_lomo100_003

ชมวิวพระอาทิตย์ตกกลางทะเลทราย Sahara

6205_T2MorocR3_lomo400_030

เราพักกันที่ Orient Desert Camp ได้ยินว่านอนแคมป์อย่าคิดว่าต้องไปลำบากเหมือนเข้าค่ายลูกเสือ
เพราะแคมป์นี้ไฮโซมาก แต่ละแคมป์มีเตียงนอนอย่างดี มีห้องน้ำในตัว มีไฟให้ใช้ ไม่ต้องจุดเทียนอย่างที่คิด
แถมด้วยอาหารจัดเต็มทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้า ไม่ต้องก่อไฟ หุงข้าวกันเองนะ

6205_T2MorocR3_lomo400_034

ตอนเช้าก็ตื่นมาเก็บภาพทะเลทรายก่อนกลับ

6205_T2MorocR3_lomo400_013

6205_T2MorocR3_lomo400_017

สักครั้งหนึ่งที่ได้มานอนกลางทะเลทราย Sahara แบบนี้ มันดีมากจริงๆ นะ

6205_P_MorocR2_lomo100_002

จาก Merzouga เราเดินทางต่อไปยังเมือง Ouarzazate ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 - 6 ชม.
ระหว่างทางไกด์ก็แวะให้เราพักทานข้าวกันก่อน

6205_T2MorocR3_lomo400_011

ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นคำเตือน (สำหรับนักท่องเที่ยว) ดีไหม? เกี่ยวกับผู้คนใน Morocco ที่ยังไงก็ต้องได้เจอแน่ๆ
เพราะคนที่นี่ชอบทักทายนักท่องเที่ยวมาก เห็นหน้าเอเชียก็ทัก "หนีห่าว" "คอนนิจิวะ" เหมารวมไปหมดว่าเป็นคนจีน คนญี่ปุ่นแน่ๆ
(แต่ยังไม่เจอใครทัก "สวัสดี" สักคน) ซึ่งการทักทายส่วนใหญ่มักมีจุดประสงค์แอบแฝง เช่น ชักชวนเราไปร้านค้า ร้านอาหาร
หรือเสนอขายของแบบ Direct sell กันไปเลย กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ "เด็ก" ที่มักจะเข้ามาหาด้วยการยื่นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำเอง
(ส่วนใหญ่ก็งานสานปลา สานรูปสัตว์ต่างๆ อย่างเด็ก 2 คนในรูปนี่แหละ) และบอกเราว่าเป็นของขวัญ ให้ฟรี
รวมถึงพยายามยัดเยียดใส่มือ แม้เราจะปฏิเสธก็ตาม

พอเรารับมาปุ๊บ ก็จะขอเงินทันที ไม่ก็ขอขนมที่เรากำลังกินอยู่นี่แหละ
ขอกันซื่อๆ เลย สุดแท้แต่จะให้หรือไม่ให้ก็แล้วแต่ (เพราะถ้าไม่ให้แล้วโดนเด็กด่าก็ฟังไม่ออกอยู่ดี)

ส่วนเราก็ให้เงินไปนิดหน่อย แลกกับการขอถ่ายรูปน้องๆ มาเป็นที่ระลึกสักรูป
(รวมถึงเอาน้องมาเมาท์ในนี้ด้วย 555)

6205_P_MorocR2_lomo100_008

6205_T2MorocR3_lomo400_005

บรรยากาศและวิวระหว่างทางจาก Merzouga ไปยัง Ouarzazate

6205_P_MorocR2_lomo100_012

Todgha Gorge : อารมณ์ประมาณ Grand Canyon เป็นส่วนหนึ่งของ High Atlas Mountain
สูงประมาณ 160 เมตร ตั้งเรียงรายไปตามทาง

6205_T2MorocR3_lomo400_002

6205_P_MorocR2_lomo100_009

มีลำธารเล็กๆ ทอดตัวไปกับ Todgha Gorge

6205_P_MorocR2_lomo100_019

ริมถนนก็มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของ
คนที่นี่ส่วนใหญ่น่ารัก เป็นมิตร ชอบทักทายนักท่องเที่ยว

6205_P_MorocR2_lomo100_033

เข้าสู่เมือง Ouarzazate เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสถานที่ที่ Hollywood ชอบมาถ่ายทำภาพยนตร์
จนมีการทำโรงถ่ายภาพยนตร์ไว้ให้เช่า และเป็นแหล่งท่องเที่ยว

6205_P_MorocR2_lomo100_028

Ksar of Ait Ben Haddou : 1 ใน 9 ของ UNESCO World Heritage Sites
อดีตเคยเป็นป้อมปราการ และที่พักระหว่างทางของกองทัพที่เดินทางจากยุโรป มายังทวีปแอฟริกา
แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็น Location ถ่ายทำภาพยนตร์ที่เรารู้จักกันหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น The Mummy, Gladiators, Prince of Persia และซีรีส์เรื่องดังอย่าง Game of Thrones เป็นต้น

6205_T2MorocR3_lomo400_018

วิวจากด้านบนของ Ait Ben Haddou

6205_P_MorocR2_lomo100_029

วิวภูเขาระหว่างทางจาก Ouarzazate ไปยัง Marrakesh

6205_P_MorocR2_lomo100_020

Le Jardin Majorelle

Marrakech เมืองที่หลายคนคุ้นชื่อ และเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
มีหลายสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ ที่เป็นจุดน่าสนใจ ถ่ายรูปสวยมาก
แต่น่าเสียดายที่เมืองนี้เป็น Tourist attractions ไปแล้ว จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ดูวุ่นวาย
ต่างจากเมืองแรกๆ ที่เราได้สัมผัสมา โดยส่วนตัวแล้วเราจึงไม่ค่อยประทับใจที่นี่เท่าไรนัก

6205_T2MorocR3_lomo400_024

Moroc04

Marrakech มี Riad และโรงแรมที่ตกแต่งสวยงามให้เลือกพักมากมาย
และสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือการถ่ายรูปใน Riad สวยๆ ไว้อัพลง Social สักรูปนี่แหละ

6205_P_MorocR2_lomo100_023

Jemaa el-Fna : ถ้าให้เปรียบกับบ้านเราก็คงคล้ายกับตลาดนัดจตุจักร
ที่เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว มีสินค้าทั้งของกิน ของใช้ ของฝากมากมายที่นี่
แต่เรามาที่นี่เพื่อถ่ายรูปจัตุรัสจาก Rooftop ของร้านอาหารสักร้าน ไม่ได้มาช็อปปิ้งหรอก

6205_T2MorocR3_lomo400_023

ร้านไหนวิวดี พอช่วงเย็นคนก็จะเยอะแบบนี้แหละ

6205_T2MorocR3_lomo400_025

6205_T2MorocR4_lomo400_017

ภายใน Medina ของเมือง Marrakech เดินเที่ยวไม่ยาก
มีทั้งพิพิธภัณฑ์ จุดถ่ายรูป และ Cafe ที่น่าสนใจให้ได้เดินชมกันเพลินๆ
หรือจะเดินดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ก็ได้ เพียงแค่ต้องระวังเรื่องการถ่ายรูปอย่างที่เตือนไว้ด้านบน

6205_T2MorocR4_lomo400_013

6205_T2MorocR4_lomo400_006

ร้านค้าหลายร้านก็จัดร้านได้สวยงาม ขออนุญาตเจ้าของร้านก่อนถ่ายรูปก็ดีนะ

6205_T2MorocR4_lomo400_027

ที่ไม่อยากให้พลาด คือ Museum de Marrakech ค่าเข้า 50 DH (ประมาณ 200 บาท)
แต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมด้านในดูแพงเกินราคาไปมาก
ข้อดีอีกอย่างคือคนไม่เยอะ เดินชมสบายๆ ถ่ายรูปได้เพลินๆ
(แต่ด้านในแสงที่ผ่านหลังคาลงมาจะเหลืองมาก ถ้าใช้กล้อง Digital ก็ปรับ White balance กันให้ดี)

Moroc05

6205_P_MorocR2_lomo100_016

Bahia Palace

6205_P_MorocR2_lomo100_021

Bahia Palace : สำหรับเราที่นี่คือที่ที่อยากมามาก เพราะดูจากรูปคือสวย
แต่พอเจอนักท่องเที่ยวที่ต่อคิวเข้าแถวมาที่นี่ ก็รู้สึกเซ็งเล็กน้อย
และพอเข้ามาก็ตามคาดคือคนเยอะมาก ใครรักความสงบ ชอบถ่ายรูปชิลๆ ควรหลีกเลี่ยง

6205_T2MorocR4_lomo400_021

6205_T2MorocR4_lomo400_029

6205_T2MorocR4_lomo400_026

ถ่ายรูปยังไงก็หลบนักท่องเที่ยวไม่ได้

6205_P_MorocR2_lomo100_027

ปิดท้ายทริปนี้โดยการวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น คือเมือง Casablanca อีกครั้ง

6205_P_MorocR2_lomo100_022

เราตั้งใจมาปิดทริปนี้ด้วยการถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ด้านนอกของ Hassan II Mosque
อากาศในวันที่เราไปค่อนข้างเย็น และมีลมพัดจากทะเลมาตลอด
แต่เสื้อผ้าที่เราใส่ไปวันนั้นคือเสื้อเชิ้ตบางๆ และกางเกงชิโนขายาว ซึ่งแทบไม่ได้ป้องกันความหนาวได้เลย

6205_T2MorocR4_lomo400_022

ขอส่งท้ายกระทู้นี้ด้วยภาพ Hassan II Mosque ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
หวังว่าเพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาชม จะได้ทำความรู้จักกับ Morocco มากขึ้น
และอาจจะได้แรงบันดาลใจในการไปเที่ยวที่ประเทศนี้กันสักครั้ง
แล้วไว้กระทู้หน้า เราจะมาแนะนำและรีวิวเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเที่ยว Morocco ให้ได้อ่านกันเต็มๆ

อดใจรอกันอีกนิดนะครับ :-)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแวะชมครับ


'New York' from the Good Old Films

IMG_1737

My dream destinations

แม้ว่าปี 2018 กำลังจะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่วัน...

แต่ปีนี้เป็นอีกปีที่เราได้ทำความฝันของตัวเองสำเร็จไปอีก 1 เรื่อง

นั่นคือการได้ไปเที่ยวในเมืองที่เราฝันว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้ง
อยากไปดูตึก Empire State ให้เห็นกับตา
อยากรู้ว่าเทพีเสรีภาพของจริงนั้นสูงขนาดไหน
อยากไปเดินเล่นใน Central Park ที่เขาว่ากว้างกว่าสวนลุมหลายเท่านัก
อยากนั่งรถชมเมืองที่ฮีโร่ในหนังหลายๆ เรื่องมาช่วยกันกอบกู้ได้หลายต่อหลายครั้ง
และที่สำคัญ...อยากไปเก็บภาพในเมืองนี้ด้วยมุมมองของเราเอง

New York City

เราได้รวบรวมภาพทั้งหมด 70 ภาพ ที่เป็นมุมมองของเราต่อ New York
และรวมถึง Boston ที่เราได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวช่วงสั้นๆ
บันทึกความทรงจำนี้ผ่านกล้องฟิล์มตัวเก่งของเรา มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน
เป็นของขวัญส่งท้ายปี 2018

ขอให้มีความสุขต้อนรับปีใหม่ 2019 กันทุกคนนะครับ

Camera : CONTAX T3
Film : Kodak E100 (Ektachrome), Fuji Superior 200, LOMO F2/400
Scan & Dev : Nine Billion RAM

หากเพื่อนๆ สนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพ และท่องเที่ยว หรืออยากติดตามชมรีวิวเก่าๆ ของเรา
สามารถติดตามได้ที่
Facebook : Thirtywander
https://www.facebook.com/thirtywander

 6111_Bos02_Portra400_005

พูดถึงการท่องเที่ยวในเมืองอย่าง New York สิ่งแรกที่เรานึกถึง และเป็นกังวลมากที่สุด ก็คือ การเดินทางด้วย Subway อาจจะเพราะคำบอกกล่าว ปนขู่กันมาว่ามันสกปรก งงเพราะมีหลายสาย และจู่ๆ จะปิดซ่อมก็ปิด พอได้มาเจอของจริงก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่ขนาดนั้นนะ แต่กลับชอบด้วยซ้ำที่ทำให้การเดินทางในเมืองใหญ่แบบนี้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น

6111_NYC_E100R1_028

ถ้าถามว่าเขตไหนใน New York ที่เราชอบมากที่สุด?
ขอตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า "Brooklyn" เราชอบตึก บรรยากาศ และสไตล์ของผู้คนแถวนี้มาก
มันดูมีสีสัน จะเป็นเมืองก็ไม่ได้ดูเมืองจ๋าๆ เหมือนใน Manhattan  แต่มันมีความคูล ความเป็นเอกลักษณ์ดี
โดยเฉพาะพวกตึกที่สร้างด้วยอิฐแดงพวกนี้แหละ แถมยังมี Graffiti สวยๆ ที่ระบายอยู่ตามผนังตึกให้ได้ถ่ายรูปกันเพลินๆ ด้วย

6111_NYC_E100R1_016

แต่ก่อนที่เราจะพาไปเที่ยวสถานที่แมสๆ อย่าง Brookyn bridge หรือ Dumbo
เราขอแนะนำสถานที่ชม New York City View ที่สวยงามและคนไม่เยอะ มาให้ได้ตามไปถ่ายรูปสวยๆ กันก่อน

6111_NYC_E100R1_003

6111_NYC_E100R1_009

WNYC Transmitter Park สวนสาธารณะเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจาก Subway สถานี Greenpoint Ave
ที่แม้สวนจะไม่ใหญ่ แต่วิวดีงามมาก และที่สำคัญคือเข้าฟรี

6111_NYC_E100R1_008
ที่สวนนี้สามารถชมวิวเมือง New York ฝั่ง Manhattan ได้ มองเห็นทั้ง One Worldtrade และ Empire State
แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าๆ ถ่ายรูปจะได้ไม่ย้อนแสงนะ

6111_NYC_E100R1_015

แถวสถานี Greenpoint Ave นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของ Hipster ก็ว่าได้ เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Williumsburg
ดังนั้นจะพบเจอคาเฟ่ หรือ select shop ฮิปๆ เก๋ๆ กระตุ้นความอยากแวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง

6111_NYC_E100R1_027

Homecoming Cafe เดินมาไม่ไกลจาก WNYC Transmitter Park ร้านน่ารัก กาแฟอร่อย

6111_NYC_E100R1_037

เราเดินจาก Greenpoint Ave เพื่อไป Williumsburg โดยมีจุดหมายระหว่างทางคือ Whyth Hotel
ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีคาเฟ่อยู่ที่ชั้น 1 ตกแต่งสวยงามและรสชาติอาหารก็อร่อย แค่ด้านนอกโรงแรมก็สวยแล้ว

6111_NYC_E100R1_036

6111_NYC_E100R1_033

เดินตรงเข้าไปในซอยข้าง Whyth Hotel จะเจอ Cityscape สวยๆ แบบนี้
มองเห็นตึก Empire State ด้วย

6111_NYC_E100R1_030

Kinfolk Cafe อยู่ใกล้กับ Whyth Hotel เลย ในร้านตกแต่ง Minimal Style
และที่สำคัญต้องมีใบไม้เขียวๆ ใหญ่ๆ ประดับไว้ด้วย ใครชอบสไตล์ Kinfolk ต้องแวะ

6111_NYC_E100R1_029
Dumbo landmark ของ Brooklyn ที่ใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปสักครั้ง

6111_NYC_E100R1_012

Brooklyn bridge ถ่ายรูปยังไงไม่ให้ติดคนอื่นเป็นความท้าทายของที่นี่
ถ้ามีเวลาแนะนำให้เดินข้ามจากฝั่ง Brooklyn ไป Manhattan เลย
เพราะช่วงกลางๆ สะพานคนจะไม่เยอะเท่าช่วงแรก
ถ้าจะเริ่มจากฝั่ง Brooklyn ควรไปช่วงเย็น เพราะถ่ายรูปแล้วจะไม่ย้อนแสง

6111_NYC01_Lomo400_022

Graffiti สวยๆ คือสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปใน New York

NY 008

ข้ามมาทางฝั่ง Manhattan เริ่มกันที่ One World Trade และ The Oculus
บริเวณนี้อยู่ที่เดียวกับตึก World Trade Center เดิม

6111_NYC01_Lomo400_038

6111_NYC01_Lomo400_017

Reflection Pools อยู่ด้านนอกของ The Oculus สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11
โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของตึก Twin Towers

6111_NYC01_Lomo400_025

Statue of Liberty

การมาชมเทพีเสรีภาพสามารถเลือกมาได้หลายแบบ แต่แบบที่เราเลือกคือ
การเดินทางด้วยเรือ Ferry ข้ามจาก Manhattan มาที่ Staten Island
ข้อดีก็คือ "ฟรี" จะนั่งกี่รอบก็ได้ แต่ข้อเสียก็คือจะเห็นเทพีอยู่ไกลไปนิด แต่ก็พอถ่ายรูปได้อยู่นะ

6111_NYC01_Lomo400_016

เมื่อข้ามมาถึง Staten Island แนะนำให้ขึ้นมาด้านบนของท่าเรือ จะมีลานกว้างๆ ให้นั่งชมวิวได้

6111_NYC01_Lomo400_035

มองเห็นวิวตึกบนฝั่ง Manhattan ด้วย ถ้าใครพกเลนส์เทเลไปคงสวยเชียวแหละ

6111_NYC01_Lomo400_010

6111_NYC_E100R1_011

รูปนี้เราถ่ายบนเรือ Ferry (ถ่ายผ่านกระจกเรือ) น่าจะเป็นจุดที่ใกล้กับเทพีมากที่สุดแล้ว

6111_NYC01_Lomo400_019

High Line สวนสาธารณะลอยฟ้าของ New York ที่พัฒนามาจากรางรถไฟร้าง
กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ควรแวะไปเดินเล่นสักครั้ง

NY 006

จุดเริ่มต้นให้นั่ง Subway ไปลงสถานี 14th Street แล้วมาเริ่ม High Line ตรงหน้า Whitney Museum
แนะนำให้มาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะแสงที่ตกกระทบตึกรอบๆ มันสวยมาก

6111_NYC01_Lomo400_021

Golden period ของเราอยู่ที่ High Line นี่แหละ แสงเย็นที่นี่ดีจริงๆ

6111_NYC01_Lomo400_003

ข้อดีอีกอย่างของการมาเดินเล่นที่ High Line ก็คือ Chelsea Market ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
แนะนำให้เข้าไปชิม Lobster ที่อร่อย สด และราคาไม่แพงด้วย

6111_NYC01_Lomo400_001

ไหนๆ ก็ได้มาเที่ยว New York ทั้งที เราเลยตัดสินใจพักที่พักหรูๆ กลาง Manhattan สักคืน
ซึ่ง Arlo Nomad ก็ตอบโจทย์มาก เพราะอยู่ไม่ไกลจาก 5th Avenue และแทบจะติดกับ Empire State เลยด้วย
ที่สำคัญห้องมุมของโรงแรมนี้มันดีมาก เพราะสามารถเห็น City View แบบอลังการณ์ได้จากในห้อง
เสียดายที่เลนส์กล้องฟิล์มเราเก็บมาได้กว้างมากสุดแค่นี้

NY 005

Empire State

6111_NYC01_Lomo400_030

Flatiron Building

6111_NYC_E100R1_018

New Yorkers

Central Park เป็นอีกสถานที่ใน New York ที่คนรักการถ่ายภาพสตรีทไม่ควรพลาด
ด้วยความที่สวนมีขนาดใหญ่ (มาก) ทำให้มีหลายจุดที่สวยงาม และผู้คนที่มาที่นี่ก็หลากหลาย
หากมีเวลาเดินเล่นในสวนมากพอก็จะได้เก็บ Moment ดีๆ กลับไปเยอะเชียวแหละ

6111_NYC_E100R2_028
Bethesda Fountain ใครเคยดูหนังเรื่องกุมภาพันธ์น่าจะพอคุ้นๆ กันบ้าง

6111_NYC_E100R2_021

6111_NYC_E100R2_022

6111_NYC_E100R2_026

The Lake and Loeb Boathouse

6111_NYC_E100R2_006

6111_NYC_E100R2_014

Alice in Wonderland

6111_NYC_E100R2_025

6111_NYC_E100R2_033

มีคนจูงน้องหมามาเดินเล่นกันเยอะแยะเลย

6111_NYC_E100R2_001

6111_NYC_E100R2_032

Superhero ก็มาเดินเล่นที่นี่ด้วย

6111_NYC_E100R2_017

พื้นที่สีเขียวกลางเมืองใหญ่แบบนี้ ดู Contrast ดี

6111_NYC_E100R2_012

Wollman Rink

6111_Bos02_Portra400_016

Inside The Met

6111_NYC_E100R2_016

Top of the Rock

จุดชมวิวที่ควรค่าแก่การขึ้นมา (แม้ว่าค่าบัตรจะแพงมาก)
ได้ขึ้นมาถ่ายรูป Empire State มุมนี้ก็คุ้มแล้ว

6111_NYC_E100R2_024

น่าเสียดายที่ฝั่ง Central Park มีตึกบังเยอะไปหน่อย

มาต่อกันที่ Boston เป็นของแถมนิดหน่อยละกันครับ
พอดีเราได้มีโอกาสไปเที่ยว Boston ประมาณ 2 วัน ก่อนที่จะเข้ามา New York
เพราะโดนบังคับด้วยโปรของสายการบิน แต่ก็กลับพบว่า Boston ก็มีมุมสวยๆ และน่าเที่ยวหลากหลายที่เหมือนกัน

6111_Bos01_Sup200_015

NY 001

MIT - Massachusetts Institute of Technology

นี่คือตึกในวิทยาลัยชื่อดังอย่าง MIT เราได้เห็นภาพตึกนี้ใน Instagram ตอนหาข้อมูล Boston
แล้วก็ปักหมุดไว้เลยว่าต้องไป ไปแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ มีหลายมุมให้ได้ถ่ายรูปเพลินเลยแหละ

6111_Bos01_Sup200_014

6111_Bos01_Sup200_001

King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square

ตั้งอยู่ไม่ไกล Harvard University ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ได้เดินทางมาถึง Boston
เราจึงตั้งใจที่จะมาที่นี่ เพื่อรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเมืองที่ท่านเคยประทับอยู่

NY 003

6111_Bos01_Sup200_006

Harvard University
เป็นมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วย Tourist แต่ไหนๆ ได้มาก็มาแวะลูบเท้าท่าน Johb Harvard สักหน่อย

NY 002

NY 004

Isabella Stewart Gardner Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่คลาสสิค และมีสวนสวยๆ อยู่ตรงกลางตึก
แม้จะไม่ใหญ่นัก และงานก็เป็นของสะสมส่วนตัวของเจ้าของพิพิธภัณฑ์เอง
แต่ถ้าชอบงานศิลปะก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งใน Boston ที่น่าสนใจครับ

6111_Bos02_Portra400_006

Boston Common

คล้าย Central Park ใน New York ขนาดพอๆ กับสวนลุมบ้านเรา
ไว้สำหรับให้คนเมืองได้มาพักผ่อนหย่อนใจ บางทีก็มีงานอาร์ทมาจัดให้ชมด้วย

6111_Bos02_Portra400_031

6111_Bos02_Portra400_023

Longfellow Bridge

อยู่ใกล้กับสถานี Charles / MGH (red line) เป็นจุดชมวิวเมือง Boston ที่อยู่สองฝั่งของแม่น้ำ Charles
ยิ่งในช่วง Autumn แบบนี้ จะมองเห็นใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่ตลอดริมแม่น้ำ แม้จะไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
แต่ถ้าชอบถ่ายรูปแนะนำให้แวะมาครับ

6111_Bos02_Portra400_029

6111_Bos02_Portra400_025

Acorn Street

ตรอกนี้เราก็ได้มาจากการส่อง IG เช่นกัน เป็นตรอกเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยบ้านอิฐแดง
ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังฝรั่งย้อนยุค มีนักท่องเที่ยวมาบ้างประปราย แต่รอจังหวะดีๆ ก็จะได้ภาพสวยๆ ไม่ยาก

6111_Bos02_Portra400_035

Boston Public Library

ห้องสมุดประชาชนของ Boston ที่ออกแบบได้สวย คลาสสิค และที่สำคัญคือเข้าชมได้ฟรี
จะเข้ามานั่งอ่านหนังสือ หรือแค่เข้ามาพักเหนื่อยก็ได้ แต่อย่าลืมถ่ายรูปสวยๆ ก่อนออกมาด้วยละกัน

6111_Bos01_Sup200_003

ปิดท้ายด้วยรูปที่สนามบิน Doha ระหว่าง Transit

และทั้งหมดนี้ก็คือรูปจากกล้องฟิล์มที่เราใช้เก็บความทรงจำดีๆ ในทริปอเมริกาครั้งแรกของเรา
ขอบคุณที่เข้ามารับชมนะครับ :-)


S(e)oul on Film : บันทึกไว้ในความทรงจำ

IMG_BF862E2EDD6F-1

 

ไปเกาหลีรอบนี้...ไปเที่ยวไหนดีล่ะ?

จากอดีตติ่งเกาหลีที่เคยไปตามรอยซีรีส์กับทัวร์เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน
มาถึงตอนนี้ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูซีรีส์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ทำให้เราไม่ค่อยมีไอเดียกับสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีสักเท่าไร
แต่คิดว่าเวลาผ่านไปหลายปี ก็คงมีสถานที่ใหม่ๆ ให้ไปถ่ายรูปเล่นเยอะอยู่แหละ

ด้วยความที่ไม่ได้ไปมานานและเจอตั๋วโปรโมชั่น (จองข้ามชาติ)
ปีนี้เราเลยแพลนไปถ่ายรูปใบไม้แดงที่เกาหลี ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

หลังจากนั่งหาข้อมูลเพื่อเตรียมแพลนเที่ยว ก็พบว่าสถานที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยว "ต้องไป" ในโซลและบริเวณใกล้เคียง

เราไปมาเกือบหมดแล้ว

งั้นออกนอกโซลไปปูซานบ้างละกัน ใบไม้แดงก็ไปดูที่อื่นที่ไม่ใช่ซอรัคซาน
ส่วนในโซล...ไม่ต้องแพลนล่วงหน้า กดดูใน IG ตรงไหนสวยๆ ก็ค่อยตามเขาไป

ครั้งนี้เราแบกกล้องฟิล์มที่เพิ่งได้มาใหม่ ไปลองใช้ในทริปนี้ด้วย
ถ่ายวิวบ้าง ถ่ายเพื่อนร่วมทริปบ้าง ถ่ายคนอื่นบ้าง
จึงอยากนำภาพบางส่วน (ที่พอจะดูได้ 555) มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน

 

Camera : CONTAX G1 + Zeiss Planar 45mm F2
Film : Fuji Superior 400, Sunny 100, Fuji Venus 800, Fuji Natura 1600
Scan & Dev : AIRLAB

 

หากเพื่อนๆ สนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพ และท่องเที่ยว หรืออยากติดตามชมรีวิวเก่าๆ ของเรา
สามารถติดตามได้ที่

Facebook : Thirtywander
https://www.facebook.com/thirtywander

 

เริ่มต้นทริปนี้กันที่ Busan Gamcheon Culture Village
หมู่บ้านหลากสีเรียงรายกันอยู่บนภูเขา เป็นสถานที่ที่ตั้งใจว่าหากได้กลับมาที่เกาหลีจะต้องไป

6011_G1R1_Sup400_003

6011_G1R1_Sup400_002

ในหมู่บ้านมีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด หากอยากได้รูปสวยๆ ก็ต้องเดินเยอะหน่อย

6011_G1R1_Sup400_004

นอกจากเดินเล่นถ่ายรูปแล้ว ในหมู่บ้านยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่น่ารัก
ให้ได้แวะพักหรือจะแวะถ่ายรูปสวยๆ กันก่อนก็ได้

6011_G1R1_Sup400_001

"IT Cafe" ร้านกาแฟที่สามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้าน ผ่านกระจกบานใหญ่

6011_G1R1_Sup400_007

"voda vom" คาเฟ่สีขาว-น้ำเงิน เหมือนบ้านใน Santorini มีดีที่กาแฟ และวิวดาดฟ้าของร้าน
ร้านนี้อยู่ด้านบนสุดของหมู่บ้าน เดินหาได้ไม่ยาก

6011_G1R1_Sup400_009

6011_G1R1_Sup400_014

ปูซาน อาจจะไม่ได้มีจุดชมใบไม้แดงมากนัก แต่ถ้าให้แนะนำก็คงจะเป็น "วัด Beomosa"
เพราะวัดนี้อยู่บนภูเขา ที่รายล้อมไปด้วยใบไม้แดงเลยแหละ น่าเสียดายที่เราไปเร็วไปหน่อย
ถ้าจะมาชมใบไม้แดงที่ปูซาน แนะนำซักช่วงสัปดาห์ที่ 2 - 3 ของเดือน พ.ย. น่าจะกำลังพีค

6011_G1R1_Sup400_019

6011_G1R1_Sup400_020

6011_G1R1_Sup400_022

6011_G1R1_Sup400_021

6011_G1R1_Sup400_024

ส่งท้ายปูซานที่ "CARIN Yeongdo Place" คาเฟ่บนเนินเขาที่วิวสวยมากกกกกกก
ตัวคาเฟ่เป็นตึก 4 ชั้น จุด Hilight อยู่ที่ชั้นดาดฟ้านี่แหละ เสียดายที่มาตอนมืดแล้วทำให้ถ่ายรูปได้ไม่มาก

6011_G1R1_Sup400_026

วันต่อมา เราได้ไปชมใบไม้แดงที่ "Naejangsan" เป็นจุดชมใบไม้แดงยอดนิยมรองจากซอรัคซาน
Naejangsan คืออุทยานแห่งชาติ ซึ่งกว้าง และต้องเดินเยอะพอสมควร
แต่ทุกๆ จุดที่เดินผ่าน ก็สวยงาม แวะถ่ายรูปได้เรื่อยๆ
ไว้มีโอกาสจะมารีวิววิธีการเดินทางไป Naejangsan อย่างละเอียดให้ได้อ่านกันอีกที

6011_G1R1_Sup400_027

6011_G1R1_Sup400_029

6011_G1R1_Sup400_028

6011_G1R1_Sup400_030

6011_G1R1_Sup400_031

"Uhwajeong"

6011_G1R1_Sup400_034

สามารถขึ้น Cable car ไปชมวิว Naejangsan มุมสูงได้ด้วย

6011_G1R1_Sup400_033

seoul 01
กลับมาเที่ยวในโซล แพลนกันวันต่อวัน เน้นเที่ยวสบายๆ
ไปคาเฟ่บ้าง ไปชมใบไม้แดงตามวัง ตามสวนสาธารณะบ้าง
ไม่รีบร้อน จะได้มีเวลาเดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆ

6011_G1R2_sunny100_002
Anthracite Coffee Roaster / Itaewon Station

6011_G1R2_sunny100_008

6011_G1R2_sunny100_009

Ehwa Woman University

6011_G1R2_sunny100_010

6011_G1R2_sunny100_014

Seoul World Cup Stadium / World Cup Stadium Station

6011_G1R2_sunny100_016

6011_G1R2_sunny100_018

6011_G1R2_sunny100_020

On the way to Haneul Park

6011_G1R2_sunny100_027

6011_G1R2_sunny100_022

6011_G1R2_sunny100_028

6011_G1R2_sunny100_032

6011_G1R2_sunny100_035

Haneul Park / World Cup Stadium Station

6011_G1R3_venus800_007
6011_G1R2_sunny100_037

Huwon Garden, Changdeokgung / Anguk Station

6011_G1R3_venus800_006

6011_G1R2_sunny100_036
ตอนเดินถ่ายรูปอยู่ในวังชางด๊อก และสวนฮูวอน เราเห็นคู่รักเกาหลีคู่หนึ่ง
แต่งชุดย้อนยุค เดินผลัดกันถ่ายรูปไปมา
เห็นแล้วน่ารักดี (ปนอิจฉานิดหน่อย 555) แต่ก็ไม่กล้าไปขอเขาถ่ายรูป

พอมาถึงที่สวนฮูวอน เห็นมีศาลาให้นั่งพัก ด้วยความที่แบกกล้องพะรุงพะรังจนเมื่อย เลยแวะเข้าไปนั่ง
สักพักก็เห็นคู่นี้เดินมาอีก แต่คราวนี้พุ่งตรงมาที่เราพร้อมกับยื่นมือถือให้ช่วยถ่ายรูปให้ ด้วยความยินดีอย่างมาก
หลังจากถ่ายรูปให้เขาไปได้ 4-5 รูปแล้ว เราเลยสบโอกาสขอใช้กล้องฟิล์มถ่ายรูปคู่เขามาด้วย

ทำให้รูปนี้ เป็นรูปที่เราอยากเห็นมากที่สุดหลังจากเอาฟิล์มทั้งหมดไปล้าง
น่ารักเนอะ :-)

6011_G1R3_venus800_001

6011_G1R3_venus800_008

Bukchon Hanok Village / Anguk Station

6011_G1R3_venus800_009

6011_G1R3_venus800_011
6011_G1R3_venus800_015

Dongdaemun Design Plaza (DDP)

6011_G1R3_venus800_012

6011_G1R3_venus800_014

6011_G1R3_venus800_023

onion cafe / Seongsu Station

6011_G1R4_Natura1600_007

6011_G1R4_Natura1600_003

6011_G1R3_venus800_026

6011_G1R4_Natura1600_006

6011_G1R4_Natura1600_008

around Seongsu Station

6011_G1R4_Natura1600_009
6011_G1R4_Natura1600_018
Seoul Forest Park / Seoul Forest Park Station

6011_G1R4_Natura1600_017

seoul 02

6011_G1R4_Natura1600_022

Seoul Coffee / Jongno 3-ga Station

6011_G1R4_Natura1600_023

6011_G1R4_Natura1600_027

6011_G1R4_Natura1600_026

 

หากสนใจอยากชมรูปจากทริปเกาหลีเพิ่มเติม
หรืออยากติดตามทริปอื่นๆ ของเราต่อ

สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ Facebook Page : ThirtyWander
ถ้าถูกใจ รบกวนกด + กด Share ด้วยนะครับ :-)

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ


Leh through my eyes : มอง "Leh" ผ่านฟิล์ม

Cover Pantip

Julley!

"Leh Ladakh" คงเป็น Dream destination สำหรับใครหลายๆ คน
หลังจากได้เห็นภาพสวยๆ จากใน Internet และได้ฟังคำบอกเล่าเรื่องราวของเมืองนี้จากหลายๆ คน
ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ฝันไว้ว่าถ้ามีโอกาส ก็อยากจะไปเห็น Leh กับตาตัวเองสักครั้ง
และผมก็ได้มีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริง

สำหรับทริปของผมครั้งนี้ ไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ที่เลือกไปเที่ยวในช่วงนั้น เพราะเป็นฤดูร้อน อากาศไม่หนาวมากนัก
ดอกไม้เริ่มบาน มีต้นไม้สีเขียวให้เห็นไปทั่วเมือง แต่ก็ยังพอมีหิมะให้ได้สัมผัสบ้าง
เหมาะกับคนรักการถ่ายรูป ที่อยากจะไปเก็บภาพ Leh สักครั้ง

ผมจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้น เพื่อนำภาพ 70 ภาพจากกล้องฟิล์ม
ที่ได้บันทึกความทรงจำจากการเดินทางครั้งนี้ มาแชร์ให้ได้ชมกัน

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเที่ยว Leh กันครับ!

Camera : Leica CM
Film : Fuji PRO800z (Expired), Fuji Superior 200
Scan & Dev : AIRLAB

 

6007_Leh_FujiPRO800_006

6007_Leh_FujiPRO800_015
6007_Leh_FujiPRO800_016

6007_Leh_FujiPRO800_021

6007_Leh_FujiPRO800_025

6007_Leh_FujiPRO800_023

6007_Leh_FujiPRO800_024

6007_Leh_FujiPRO800_029

6007_Leh_FujiPRO800_031

6007_Leh_FujiPRO800_027

6007_Leh_FujiPRO800_038

6007_Leh_Sup200_007

6007_Leh_Sup200_002

6007_Leh_Sup200_010

6007_Leh_Sup200_009

6007_Leh_Sup200_004
6007_Leh_Sup200_016

6007_Leh_Sup200_015

6007_Leh_Sup200_017

6007_Leh_Sup200_020

6007_Leh_Sup200_019

6007_Leh_Sup200_029

6007_Leh_Sup200_025

6007_Leh_Sup200_024

6007_Leh_Sup200_025

6007_Leh_Sup200_029

6007_Leh_Sup200_037

6007_Leh_Sup200_038

6007_Leh_Sup200_030

6007_Leh_Sup200_026

6007_Leh_Sup200_033

6007_Leh_Sup200_027

6007_Leh_Sup200_040

6007_Leh_Sup200_039

6007_Leh_Sup200_043

6007_Leh_Sup200_049

6007_Leh_Sup200_048

6007_Leh_Sup200_045

6007_Leh_Sup200_050

6007_Leh_Sup200_046

6007_Leh_Sup200_052

6007_Leh_Sup200_051

6007_Leh_Sup200_058

6007_Leh_Sup200_062

6007_Leh_Sup200_059

6007_Leh_Sup200_056

6007_Leh_Sup200_057

6007_Leh_Sup200_065

6007_Leh_Sup200_069

6007_Leh_Sup200_067

6007_Leh_Sup200_070

6007_Leh_Sup200_073

6007_Leh_Sup200_076

6007_Leh_Sup200_072

6007_Leh_Sup200_088

6007_Leh_Sup200_078

6007_Leh_Sup200_089

6007_Leh_Sup200_079

6007_Leh_Sup200_087

6007_Leh_Sup200_094

6007_Leh_Sup200_082

6007_Leh_Sup200_096

6007_Leh_Sup200_102

6007_Leh_Sup200_098

6007_Leh_Sup200_103

6007_Leh_Sup200_104

6007_Leh_Sup200_109

6007_Leh_Sup200_105

6007_Leh_Sup200_110

6007_Leh_Sup200_108

6007_Leh_Sup200_111

และนี่ก็คือรูปบางส่วนที่นำมาให้ชมกัน หากมีโอกาสสักครั้งในชีวิต
อย่าลืมจัด Lah Ladakh ไว้ในลิสต์การเดินทางของคุณด้วยนะครับ
แล้วไว้พบกันใหม่กับรีวิว Leh Ladakh แบบละเอียด

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ


R O D T A N K

5912_RT4-12_216

Model : Rodtank  ( Instagram : rodtank.s )
Location : IDEO Q Ratchathewi
Camera : Sony A7ii
Lens : FE 55mm F1.8
all photos processed via Lightroom 2016 with VSCOfilm

5912_RT4-12_0315912_RT4-12_030

5912_RT4-12_013

5912_RT4-12_020

5912_RT4-12_027

5912_RT4-12_0495912_RT4-12_050

5912_RT4-12_0875912_RT4-12_079

5912_RT4-12_051

5912_RT4-12_168

5912_RT4-12_1855912_RT4-12_178

5912_RT4-12_1385912_RT4-12_137

5912_RT4-12_0895912_RT4-12_092

5912_RT4-12_097

5912_RT4-12_102

5912_RT4-12_111

 

 

5912_RT4-12_109

 

 

5912_RT4-12_1135912_RT4-12_116

 

5912_RT4-12_115


3rd X Max

5910_3rdMax_PRO400_050

Model : Third  ( Instagram : 3rd.ntk ) , Max ( Instagram : m.xzm )
Location : Asiatique
Camera : CONTAX Aria
Lens : Carl Zeiss Planar 50mm F1.4
Film : Fuji PRO400H

5910_3rdMax_PRO400_061

5910_3rdMax_PRO400_059

5910_3rdMax_PRO400_049

5910_3rdMax_PRO400_053

5910_3rdMax_PRO400_056

5910_3rdMax_PRO400_068

5910_3rdMax_PRO400_0485910_3rdMax_PRO400_0465910_3rdMax_PRO400_054

5910_3rdMax_PRO400_0635910_3rdMax_PRO400_067

5910_3rdMax_PRO400_0695910_3rdMax_PRO400_071
5910_3rdMax_PRO400_0665910_3rdMax_PRO400_064

5910_3rdMax_PRO400_062

5910_3rdMax_PRO400_070

5910_3rdMax_PRO400_0525910_3rdMax_PRO400_051

5910_3rdMax_PRO400_0445910_3rdMax_PRO400_045

5910_3rdMax_PRO400_0395910_3rdMax_PRO400_038

5910_3rdMax_PRO400_0015910_3rdMax_PRO400_002

5910_3rdMax_PRO400_0035910_3rdMax_PRO400_004

5910_3rdMax_PRO400_008

5910_3rdMax_PRO400_0105910_3rdMax_PRO400_011

5910_3rdMax_PRO400_013

5910_3rdMax_PRO400_014

5910_3rdMax_PRO400_017

5910_3rdMax_PRO400_015
5910_3rdMax_PRO400_018

5910_3rdMax_PRO400_020

5910_3rdMax_PRO400_022

5910_3rdMax_PRO400_0255910_3rdMax_PRO400_0245910_3rdMax_PRO400_0275910_3rdMax_PRO400_0305910_3rdMax_PRO400_028

 


Pre-wedding : Pink & Gift

1510_PinkGift_428

Location : Chiang Mai
Camera : Sony A7 & PENTAX 645 (Film)
Lens : FE 55 F1.8 , PENTAX 75 mm F2.8
all photos processed via Lightroom 2016 with VSCOfilm

1510_PinkGift_408

1510_PinkGift_407

1510_PinkGift_414

1510_PinkGift_436

1510_Pink-Gift PRO400_5_012

1510_Pink-Gift PRO400_5_010

1510_Pink-Gift PRO400_5_009

1510_Pink-Gift PRO400_5_008

1510_Pink-Gift PRO400_5_006

1510_Pink-Gift PRO400_5_007

1510_Pink-Gift PRO400_5_004

1510_PinkGift_296

1510_PinkGift_347

1510_Pink-Gift PRO400_3_002

1510_Pink-Gift PRO400_4_006

1510_PinkGift_321

1510_Pink-Gift PRO400_4_010

1510_PinkGift_320

1510_PinkGift_2661510_PinkGift_2671510_PinkGift_2731510_PinkGift_274

1510_PinkGift_277

1510_PinkGift_282

1510_PinkGift_1961510_PinkGift_2441510_PinkGift_237

1510_Pink-Gift PRO400_1_011

1510_Pink-Gift PRO400_1_010

1510_PinkGift_082

1510_PinkGift_108

1510_PinkGift_101

1510_Pink-Gift PRO400_2_001

1510_Pink-Gift PRO400_2_002

1510_PinkGift_173

1510_PinkGift_174


MinimalMe X Leegade

5905_minime_122

All photo are taken from MinimalMe 1st Workshop
Model
 : Leegade  ( IG : @gadd.de)
Location : Cafe House Studio
Camera : Sony A7ii
Lens : Batis 85mm F1.8
all photos processed via Lightroom 2016 with VSCOfilm

 

5905_minime_123
5905_minime_130

5905_minime_121

5905_minime_127

5905_minime_084

5905_minime_086

5905_minime_116

5905_minime_119

5905_minime_090

5905_minime_111

5905_minime_108