The Lantern : Afternoon Tea ที่คาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ผมมักจะมองหาที่พักที่ตกแต่งสวยงาม
มีวิวให้ถ่ายรูป มีร้านอาหาร หรือ ร้านกาแฟอร่อยๆ
เพราะจะได้ใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดได้อย่างสบายๆ หรือที่เรียกกันติดปากตอนนี้ว่า "slow life"
ยิ่งถ้าในโรงแรมมี Afternoon tea ให้บริการในราคาไม่แพงนัก ยิ่งดีใหญ่เลย เพราะจะได้เอามาเป็นพร็อบถ่ายรูปด้วย
แต่พออยู่กรุงเทพฯ ผมกลับเฉยๆ กับการไปชิม Afternoon tea ตามโรงแรม
เพราะคิดว่าราคาคงแพงมาก และเราก็ไม่ได้เข้าพักในโรงแรมนั้น เลยไม่รู้จะเข้าไปจิบชาทำไม
และอีกเหตุผลก็คือ มีร้านกาแฟสวยๆ น่านั่ง (แต่ราคาไม่ค่อยน่ารัก)
ทั้งที่เพิ่งเปิดและเปิดมานานแล้ว เต็มกรุงเทพฯ ไปหมด
แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปจิบชาที่ The Lantern
ซึ่งเป็นคาเฟ่ของโรงแรม Millennium Hilton ส่วนจะมีเมนูอะไรแนะนำบ้าง ติดตามกันได้ครับ
โรงแรม Millennium Hilton ตั้งอยู่แถวคลองสาน ติดกับตลาดคลองสานพลาซ่า
ใกล้ๆ กับ The Jam Factory สถานที่สุดป๊อบในหมู่ Hipster นั่นเอง
การเดินทางก็ไม่ยากครับ สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วต่อ Taxi มาที่โรงแรมได้เลย
หรือจะนั่ง BTS มาลงสถานีสะพานตากสิน ออกทางออกที่ 1 แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปลงที่ท่าน้ำ est
แล้วเดินต่อมาทางคลองสานพลาซ่า โรงแรมจะอยู่ติดกับคลองสานพลาซ่าเลยครับ
The Lantern เป็นส่วนคาเฟ่ของโรงแรม อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
มี Bakery, ชา และกาแฟหลากหลายเมนูให้เลือกชิม ตัวร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ ด้านนอก ไว้นั่งรับลม (และแดด) + ชมวิวแม่น้ำ กับด้านในร้าน สำหรับคนขี้ร้อน ไว้นั่งจิบชาสบายๆ ยามบ่าย
สำหรับ Bakery มีหลากหลายเมนูให้เลือก ทั้งครัวซองท์ พิซซ่า ขนมเค้กชนิดต่างๆ
ราคาขนมเค้กเริ่มต้นที่ 100 บาท รสชาติและคุณภาพก็คุ้มค่ากับราคาครับ เทียบกับร้านกาแฟดังๆ แล้วราคาขนมที่นี่ก็ถือว่าไม่แพง
Japanese Souffle' Cheese cake หน้าตาน่าทานเชียว ราคาชิ้นละ 100 บาท
นอกจากเค้กแล้ว ที่ร้านยังมีชาและช็อกโกแลตขายด้วยครับ ซึ่งช็อกโกแลตของที่นี่ ถือเป็น Highlight เลย
แต่ช็อกโกแลตสีสันสวยงามในขวดโหล ผมไม่ได้ลองชิมนะครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่ารสชาติเป็นอย่างไร
ส่วนเมนูที่ผมสั่งมาลองในวันนี้ ก็คือ Afternoon tea set กับ Hot Chocolate ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่ม Signature ของทางร้านครับ
Hot Chocolate ราคา 135 บาท
Hot Chocolate ของที่นี่ จะแยกเสิร์ฟ ช็อกโกแลตกับนมร้อน
โดยช็อกโกแลตจะมีให้เลือก 3 แบบ คือ Dark (สีเข้มสุด รสชาติจะขมๆ หน่อย) , Milk (สีน้ำตาลอ่อน ไม่ขม ออกหวานนิดๆ)
และ White (สีขาว รสจะออกหวาน มัน เด็กๆ ชอบ)
ช็อคโกแลตรสชาติต่างๆ
วิธีการชง ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เอา Chocolate ball ใส่ลงไปในนมร้อน แล้วก็คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จพิธี
Milk Chocolate
Dark Chocolate
ผมได้ลองชิม Milk Chocolate ไป รสชาติดีมากกกกกก
มันนวลๆ ละมุนๆ ไม่หวานหรือขมจัดจนเกินไป นมก็หอม มัน อร่อยมากๆ ครับ
อีกเมนูที่ได้ลอง ก็คือ Afternoon tea set ครับ ซึ่งเมนูก็จะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามฤดูกาล
แต่เราไม่สามารถเลือกได้นะครับ ว่าจะทานอะไรบ้าง เพราะทางร้านจะจัดมาให้เลย
ราคาต่อชุด (มีขนมตามรูป และ ชาอีก 1 กา) 1,200 บาท
ใน Set ประกอบด้วย Scone 2 ชิ้น (มีแยมส้มกับสตรอเบอรี่ และเนยให้ทานคู่กัน)
แซนวิช และ เค้กหลายๆ แบบ ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตามสไตล์ Afternoon tea
รสชาติอร่อยใช้ได้ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษครับ
สุดท้ายนี้ หากใครเบื่อที่จะไปนั่งร้านกาแฟดังๆ เบียดเสียดกับผู้คนมากมาย
อยากหลีกหนีความวุ่นวาย มานั่งเล่นชิลๆ จิบ Hot Chocolate กินเค้กอร่อยๆ
The Lantern ที่โรงแรม Millennium Hilton ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่น่าสนใจ
ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก และได้นั่งชมวิว รับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ถือเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่น่าสนใจดีครับ
ร้านเปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 20.00 น.
และถ้าแวะมาซื้อ Bakery หลัง 6 โมงเย็นของทุกวัน จะได้ลดราคา 50% ด้วยนะ
แล้วไว้พบกันกับรีวิวร้านกาแฟใหม่ๆ ในครั้งต่อไปนะครับ :-)
(Taipei Review) Cafe Niau : จิบกาแฟ เล่นกับแมว ในวันฝนพรำ
ผมเป็นคนที่ชอบไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟครับ
แต่ผมไม่ดื่มกาแฟ
เหตุผลหลักของการเสาะหาร้านกาแฟไปนั่งเล่น ก็คงเป็นเพราะชอบถ่ายรูป
เวลาเห็นร้านกาแฟสวยๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปนั่งเล่น สั่งเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟ
และหามุมถ่ายรูป...
สัปดาห์ก่อนผมเพิ่งกลับจากการไปเที่ยวที่ไทเป
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก (และอาจจะเป็นครั้งเดียว) ที่ผมไปไทเป
ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศไต้หวันและเมืองนี้เลย
review ใน pantip ก็พอให้ข้อมูลเบื้องต้นได้บ้าง
แต่สถานที่เที่ยวใหม่ๆ หรือร้านกาแฟน่ารักๆ ไม่ค่อยมีใครรีวิวมากนัก
ต่างจากรีวิวประเทศป๊อบๆ อย่างญี่ปุ่น หรือ เกาหลี ซึ่งก็โดดเด่น โด่งดัง
ในสไตล์และความน่ารักของตัวเองอยู่แล้ว
แต่รีวิวเกี่ยวกับร้านน่ารักในไต้หวัน...ไม่มีเลย
สุดท้ายผมก็เลยต้องพึ่งพา guidebook ตามร้านหนังสือเป็นหลัก
ซึ่ง guidebook เกี่ยวกับไทเป เกี่ยวกับไต้หวัน ก็มีน้อยมากกก
(ที่ใช้การได้จริงมีอยู่ 2-3 เล่มเอง)
ประกอบกับก่อนจะมีทริปนี้เกิดขึ้น ผมก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมสอบเรียนจบ
ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรมากเท่าไร สุดท้ายเลยทำได้แค่หอบ guidebook ที่คิดว่าโอเค
และไปลุยเอาดาบหน้าละกัน...
จนวันที่ท้ายๆ ของทริป ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปไหนแล้ว
เลยเปิด guidebook ที่พกมา หาร้านกาแฟน่ารักๆ ไปนั่งเล่นถ่ายรูปดีกว่า
ในหนังสือได้แนะนำร้าน T.Loafer Cafe ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก MRT Guting (สายสีเขียว) เท่าไรนัก
และบรรยายสรรพคุณมาว่า ร้านนี้ติดอันดับของร้านกาแฟที่คนมาไทเป ควรแวะมาสักครั้ง
สามารถแวะมาง่ายๆ เปิด google map หาร้านก็เจอ
ผมจึงดิ่งไปร้านนี้ ตามคำแนะนำของ Guidebook แต่สรุปพอเปิด google map . . . หาไม่เจอ
ผมเลยดูแผนที่จากใน MRT Guting และหาร้านตามที่อยู่ที่มีบอกไว้ ว่าอยู่ที่ Lane 141 (คล้ายๆ เลขซอย)
และได้งมหาทางไปเอง แต่เพื่อความสะดวกสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากไปร้านกาแฟร้านนี้บ้าง (และไม่อยากหาร้านเอง)
ตามผมมาเลยครับ
ตั้งต้นที่สถานี MRT Guting ให้เดินออกมาทางออกที่ 5 ครับ
เดินออกมาแล้ว จะเจอทางเท้าแบบนี้ เดินตรงไปเรื่อยๆ ครับ
ระหว่างทางจะมีบ้านเก่า สวยดี แวะถ่ายรูปเล่นได้
และระหว่างเดินตรงไป ทางด้านซ้ายมือ จะมีร้าน Waffle อยู่ ชื่อร้าน Mr.PAPA
น่าเข้าไปลองเหมือนกันครับ ใครสนใจแวะร้านนี้ก่อนได้
พอเดินตรงมาซักพัก จะเจอ 7-11 อยู่ตรงหัวมุม ก่อนจะถึงสี่แยก
พอถึง 7-11 แล้ว ให้เดินเลี้ยวซ้าย หรือจะข้ามถนนไปก่อน แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายก็ได้
แต่ครั้งแรก ผมไม่รู้ว่า Lane 141 อยู่ฝั่งตรงข้าม พอเจอ 7-11 ผมเลยเลี้ยวซ้ายไปเลย
หลังจากนั้นให้เดินตรงมาอย่างเดียวครับ
เดินตรงมาซัก 200 เมตร จะเจอสี่แยก มี Mos Burger อยู่ตรงหัวมุมครับ
พอเห็นร้าน Mos ให้เดินข้ามทางม้าลาย มาทางฝั่งเดียวกับ Mos
จากนั้นเลี้ยวขวาย้อนกลับไปทิศเดียวกับที่เราเดินมาครับ
เดินตรงมาอีกนิด จะเห็นป้าย Lane 141 แสดงว่าเรามาถูกแล้วครับ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยยยย
เข้าซอยมาก็อึ้งเล็กน้อย เพราะในซอยนี้เหมือนเป็นย่านที่อยู่อาศัยมากกว่า
แล้วร้านกาแฟล่ะ อยู่ไหน? เดินตรงเข้าซอยไปอีกหน่อยละกัน
เดินเข้าซอยมาประมาณ 50 เมตร
มองทางขวามือ จะเห็นร้านหน้าตาแปลกแยกจากบ้านรอบๆ แบบนี้ครับ
นี่ไงครับ T.Loafer Cafe ที่เราตามหาอยู่
แต่เอ๊ะ...ทำไมมันดูเงียบๆ ไม่มีคนในร้านเลยล่ะ...
มองเข้าไปในร้าน มีป้ายเล็กๆ มีรูปแมว และภาษาจีน (ซึ่งผมอ่านไม่ออก)
และมีเวลาเขียนไว้ สรุปคือ ร้านเปิดบ่าย 2 (แต่ผมมาตอนเที่ยง T_T)
ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ให้ดูก่อนแล้วกัน
ร้านตกแต่งเหมือนเอาไม้เก่าๆ มาปะๆ ให้ดูอาร์ทๆ สวยแปลกตาไปอีกแบบ
รอบๆ มีภาพแมว และรูปวาดแมวน่ารักๆ สงสัยเจ้าของร้านคงจะชอบแมวมาก
แต่ดูไปดูมา...อ้าว ทำไมร้านชื่อว่า Cafe Niau ล่ะ...
ไม่ได้ชื่อ T.Loafer หรอกเหรอ...
แต่ตอนนั้นร้านยังไม่เปิด ผมก็เลยไม่รู้จะหาคำตอบเรื่องนี้จากใคร
เลยแวบไปเที่ยวที่อื่นก่อน และจะกลับมาดูที่ร้านนี้อีกรอบตอนบ่าย 2
และในที่สุด ตอนบ่าย 2 ร้านก็เปิดจริงๆ ด้วยครับ
บรรยากาศภายในร้านดูเล็กๆ แคบๆ แต่แต่งได้น่ารัก อบอุ่น
เหมาะแก่การมานั่งชิลๆ จิบกาแฟเหลือเกิน
เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง อายุไม่มากนัก เข้ามาต้อนรับ (ด้วยภาษาจีน) และนำเมนูเครื่องดื่ม (ซึ่งมีแต่ภาษาจีน) มาให้
ผมจึงพูดภาษาอังกฤษกลับไป ว่ามีเมนูอะไรแนะนำบ้าง ขอที่ไม่ใช่กาแฟ
โชคดีที่เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้ เธอจึงแนะนำชานมแบบเย็นมาให้
แล้วเจ้าของร้านตัวจริงก็เดินมา
เจ้าของร้านตัวนี้ ชื่อ Milu เป็น American short hair ตัวผู้ อายุ 10 ขวบแล้ว
แต่ยังซนใช้ได้อยู่ ขนสวยด้วย เดินมาคลอเคล้าคลอเคลียได้ซํกแปบ
นางก็หลับ...
ชานมของผมได้แล้ว
แต่งหน้าฟองนมด้วย เป็นรูปเท้าแมว น่ารักเชียว
เจ้าของร้านถามว่าผมมาจากไหน
ผมตอบไปว่ามาจากประเทศไทย เจ้าของร้านร้องอ๋อขึ้นมา
บอกว่าคุณมาตาม guidebook ใช่ไหม
เค้ากะไว้แล้ว เพราะมีคนไทยมาที่นี่หลายคน ตาม guidebook มา
แต่ที่จริงแล้ว ข้อมูลใน guidebook ตอนนี้ ไม่ถูกแล้วนะ
เพราะร้านเค้าเปลี่ยนชื่อร้านแล้ว เพราะเปลี่ยนเจ้าของแล้ว
แต่แมวและ concept ในร้าน ยังคล้ายๆ เดิม
ตอนนี้ร้านใช้ชื่อ Cafe Niau (Niau แทนเสียงแมวร้อง "เหมียวๆ")
พร้อมกับเอานามบัตรของร้านมาให้ หลังจากนั้นผมก็ได้คุยเกี่ยวกับที่เที่ยวในไทเปบ้างเล็กน้อย
เจ้าของร้านก็ชวนผมเล่นกับ Milu และมีหนูแฮมสเตอร์อีกตัวชื่อ Nanny ที่เค้าเพิ่งเอามาเลี้ยง
สร้างความเป็นกันเอง และช่วยให้ผมมีเพื่อนคุยดีเหมือนกัน (เพราะไปคนเดียว T_T)
บรรยากาศในร้าน ตกแต่งโดยมีรูปแมว ตุ๊กตาแมว อะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับแมว
(แต่ที่นี่ไม่ใช่ Cat cafe นะ เพราะมี Milu ให้เล่นตัวเดียวเอง)
เหมือนเป็นบ้านหลังเล็กๆ ให้เพื่อนมานั่งจิบกาแฟ นั่งคุยกัน น่ารักดีแฮะ
เพื่อนๆ คนไหนไปเที่ยวไทเป แล้วอยากไปถ่ายรูปกับร้านกาแฟน่ารักๆ ที่นี่
แวะไปตามลายแทงที่ผมให้ไว้ได้เลยนะครับ
กาแฟราคาไม่แตกต่างจากคาเฟ่ในไทยเท่าไร เจ้าของร้านอัธยาศัยดี มี Milu ให้เล่นด้วยเพลินๆ
ร้านเปิด 14.00 - 22.00 น. ครับ
ส่วนอันนี้เป็น Facebook ของทางร้านครับ
https://www.facebook.com/MuNiau
รีวิวที่เที่ยวในไต้หวันยังมีอีก รอติดตามกันนะครับ :-)
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ